มาวันนี้ ขอให้เรียกว่า วันมาเยี่ยมสวนโมกข์ประจำปี ให้เรียกวันนี้ว่าเป็นวันเยี่ยมสวนโมกข์ประจำปี วัตถุประสงค์คือ ขอให้เราได้พบปะกัน ได้ปรึกษาหารือกัน ได้ทำความเข้าใจกันในการที่จะสืบไว้ซึ่งอายุของพระศาสนาตามความประสงค์ของพระศาสดา ขอให้ทุกคนเข้าใจว่ามาที่นี้วันนี้เพื่อพบปะปรึกษาหารือกันในการที่จะช่วยสืบอายุพระศาสนาไว้ตามความประสงค์ของพระศาสดา
ร่วมน้อมรำลึกในวาระวันเยี่ยมสวนโมกข์ ๒๕๖๕ : ท่านรู้จักพุทธทาสครั้งแรกเมื่อใด และนำธรรมะอะไรไปใช้บ้าง ?
รู้จักท่านจากข่าวการอาพาธ และมรณภาพของท่าน ประทับใจเรื่องพินัยกรรมจัดงานศพ เมื่อก่อนปี 2538 ทำให้ใจอยากค้นหาธรรมคำสอนว่า ท่านสอนอะไร อย่างไร เราไม่ชอบศาสนาพุทธ เพราะเข้าใจผิดเองว่า เป็นเรื่องพิธีรีตอง เป็นเรื่องงมงาย พึ่งพาไม่ได้ แต่พอลงไปศึกษากลับชอบ ว่าศาสนาพุทธเป็นแบบนี้เหรอ มุ่งสอนปัญญา สอนให้ตัวเองพึ่งตัวเอง ดวงไม่มี ดวงดีทุกวัน เหงื่อเป็นน้ำมนต์ ออกเหงื่อมากๆ ชีวิตก็ดีขึ้น เจริญขึ้น การทำงานคือการปฏิบัติธรรม ขณิกสมาธิสามารถเกิดขึ้นได้ในการทำการงาน ชิมลางการบรรลุธรรมได้ อย่างนิพพานชั่วขณะ ทำให้ใจเปิดรับว่า ท่านพุทธทาสเป็นที่พึ่งเราได้ ครูบาอาจารย์ที่เราจะมี ต้องมีท่านเป็นที่หนึ่ง เราจะใช้ธรรมคำสอนที่เราเองยิ่งใหญ่ได้ด้วยปัญญาของเราเอง นำทางชีวิต สัมมาทิฏฐิสร้างให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการทำงานที่เป็นการปฏิบัติธรรม และชีวิตที่ลำบากลำบน สามารถแก้ไขได้ด้วยการสร้างเหตุที่ดี กฎอิทัปปัจยตาช่วยได้ และความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากความคิด กระบวนการปฏิจจสมุปบาทที่ถูกตัดวงจรตั้งแต่ผัสสะเกิด เวทนาเกิด ไม่ให้เส้นสายสร้างตัณหา อุปาทาน ช่วยให้ตัวตนเบาบางลงไป ความทุกข์น้อยลงไป นี่คือสุดยอดของการทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นจากตัวเรา เราเป็นผู้ก่อ และแก้ไขที่ตัวเราเอง ประมาณปี 2539 ก่อนวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 เค้าลางของความหายนะในธุรกิจที่ทำอยู่เริ่มเกิด ความทุกข์เพิ่มพูนขึ้นมาก คาดการณ์ว่าเงินทองที่ทำมาหาได้จะสูญเสียหมด ใจมีแต่ความแค้นคนที่ยืมเงินหลายล้านไปแล้วหนีหายหน้าไม่คืน หาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจขับรถลงใต้ไปเรื่อยๆ ตั้งใจว่าค่ำไหนนอนนั้น เมื่อไปถึงอำเภอไชยา เห็นป้ายข้างทางว่า สวนโมกขพลาราม จึงเลี้ยวรถเข้าไป เวลาตอนนั้นเป็นเวลาเย็น จะเข้าไปที่สวนโมกข์ ที่ที่ท่านพุทธทาสอยู่ เดินเข้าไป ไปเจอหนังสือที่ท่านเขียน เมื่อเปิดดู ไปเจอข้อความที่กระแทกใจมากว่า “ห้ามโทษผู้อื่น นอกจากโทษสติปัญญาของตัวเอง การโทษผู้อื่นเป็นคนไม่จริง และคนประเภทนี้มักจะสร้างปัญหา คนเราต้องมีความพยายามสูงสุด ถึงขนาดที่ต้องคิดว่า ถ้าโลกนี้มีพระอรหันต์ได้ เขาก็คน เขาเป็นได้ เราก็ต้องเป็นได้” ข้อความที่จำแม่นประมาณนี้กระแทกใจมาก มันฝังแน่นในใจว่า ก่อคำถามถามกลับมาที่ตัวเองว่า มันโกงเรา แล้วเราเป็นคนผิด? เราไปให้เขากู้เงินเอง เราเป็นคนผิด เราน่าจะดูคนให้ออก การดูคนผิด แล้วเกิดเรื่องร้ายกับชีวิตเรา เป็นเรื่องของสติปัญญาเราบกพร่อง เราไม่ดีเอง . ได้ก้มลงกราบที่เก็บกระดูกของท่านในศาลาธรรมโฆษณ์ ตอนนั้นเวลาประมาณสี่โมงเย็น ใจรู้สึกปีตี น้ำตาไหลออกมา มาสวนโมกษ์ครั้งแรก ได้รู้จักความไม่ดีของตัวเอง จึงพกเอาคำสอนนี้ขับรถต่อไปถึงนราธิวาส รวม 8 วัน ขบคิดไปตลอดทาง เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพ ความรู้เรื่องตัวเองไม่ดี ตัวเองใช้ไม่ได้ ที่ในอดีตไม่เคยมองเห็น มองแต่ความไม่ดีของคนอื่น ทำให้เกิดการเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ อโหสิกรรมคนได้ ทำการงานได้ดี ได้ถูกต้องมากขึ้น เพราะถามหาสติปัญญาตลอดเวลา เพื่อให้การทำธุรกิจมีตัวตนน้อยที่สุด จะได้ผิดพลาดน้อยที่สุด ผ่านเวลามา 26 ปี มามีวันนี้ได้ เป็นผู้เป็นคน ธุรกิจอายุใกล้จะ 30 ปี เพราะคำสอนของท่านพุทธทาส 100% ถ้าไม่ได้คำสอน ไม่ได้พบท่านพุทธทาส จะไม่มีวันนี้แน่นอน

ชาย กิตติคุณาภรณ์ อายุ 56 ปี
1.รู้จักในfacebook เมื่อหลายปีก่อน น่าจะประมาณ 5 ปี ได้ (ประมาณปี พ.ศ.2560) 2.-คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง -การทำงานคือการประพฤติธรรม

pauliegiver
มัธยมปลาย ....รร.จัดกิจกรรมพาไปวัดชลประทานฯ ฟังท่านเทศน์ ... ธรรมมะ....ถ้าวันนี้ถูกต้อง ก็ไม่ต้องกลัวพรุ่งนี้

ราตรี เหลืองอร่ามจิตร
รู้จักชื่อเสียงท่านนานมาแล้วแต่เริ่มอ่านหนังสือคู่่มือมนุษย์เมื่อสิบกว่าปีแล้วเป็นเล่มแรก,ชุดธรรมโฆษณ์และอีกหลายเล่มด้วยศรัทธาปสาทะ แค่ได้รู้และเข้าใจประโยชน์ก็มากมายมหาศาลแล้ว????????????

อนุรัฐ
... ได้ยินชื่อท่านมานานแล้วในสื่อต่างๆและรู้สึกเลื่อมใสท่าน และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก็ได้มีโอกาสได้ศึกษาหนังสือธรรมมะของท่าน หลังจากนั้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 ก็ได้ซื้อเสียงธรรมบรรยายของท่านพุทธทาส และหลวงพ่อปัญญา ในงานสัปดาห์หนังสือ มาฟัง ก็ทำให้รู้จักท่านมากขึ้นและรู้จักชื่อสวนโมกข์กรุงเทพฯ และได้ไปร่วมกิจกรรม คำสอนที่ท่านมักจะกล่าวย้ำคือ ." ธรรมมะคือหน้าที่การงาน" ให้เราทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

กนกพร    
รู้จักท่านเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปี พ.ศ 2535 ตอนนั้น อายุผม 24ปี จากหนังสือคู่มือมนุษย์ เนื่องจากสูญเสียน้องชายไป จึงแสวงหาหนังสือธรรมะที่ช่วยเยี่ยวยาจิตใจ ในยามที่ทุกข์์ใจ พอมาอ่านหนังสือของท่านแล้ว มีความรู้สึกว่าจิตใจสงบ เยือกเย็น นี่และที่เรียกว่า "ธรรมะโอสถ"

พรศักดิ์ คมพิทักษ์เดช จากอดีตผู้บวชสวนโมกข์รุ่น20 ขอนแก่น
อายุ 24 ปัจจุบัน 58 ภาษาคนภาษาธรรม คือเล่มแรกที่เจอตอนบวช แล้วก็ติดตามเรื่อยมา ตอนเผาก็ไป วันนี้จะไปวันเยี่ยมสวนโมกข์ ได้ข่าวว่ามีบรรจุอัฐิ ธาตุ นามรูป ขันธ์ห้า นิวรณ์ห้า กาลามสูตร อิทัปปัจยตา จตุราริยะสัจ ไกลวัลลยธรรม ตถตา อวิตถตา อนัญญถตา ปภัสรมิทัง ภิกขเวจิตตัง ฯ ปริสุทโธ สมาหิโต กันมนีโย เราทุกคนคือสิ่งเดียวกัน วิราคะ นิโรธ ปฎินิจสัคคะ ฌาณสี่ อานาปาณสติ

พิทยา ยศศักดิ์
ตอน2536รพ.ศิริราชของเรามีนักข่าวมามากมายทุดวัน สงสัยเขามาเฝ้ารอทำข่าวหลวงพ่อพุทธทาสท่านมาอาพาธ เลยสงสัยมาก ชื่อก็แปลกมาก

จงดี
รู้จักท่านในนามพุทธทาส โดยไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พุทธทาส ซึมเข้ามาอยู่ในใจโดยไม่รู้ตัว และมีสิ่งที่น่านำมาเป็นแบบอย่างได้มากมาย โดยเฉพาะการละจาก โลภ โกรธ หลง ท่ทนฝากคำสอนไว้น่าฟัง และควรนำไปปฏิบัติ ทุกเรื่อง ธรรมของท่านทรงคุณค่าทึ่ควรนำไปปฏิบัติ ขอกราบอนุโมทนาในความดีงามของท่านพุทธทาส ไว้เป็น สรณะ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง

โกศล
นานมากครับ เกิดที่สุราษฎร์ธานี ติดตามคำสอนและศรัทธาในพุทธแท้ของท่านมาโดยตลอดครับ

อนุรักษ์ พัฒนศรี
1.รู้จัก อ.พุทธทาส มานานแล้ว แต่ให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น เมื่อประสบมหาอุทกภัยปี2554...ทุกข์มาก ครับ 2.นำธรรมะไปใช้ ในการทำงานเพื่อดำรงชีพทุกวัน...ทำงานด้วยจิตว่าง รู้จักพอ ครับ

นายไพฑูรณ์ วัฒนะ
เมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้วค่ะ เนื่องด้วยกัลยาณมิตรท่านหนึ่งได้ส่งลิงค์ของสวนโมกกรุงเทพฯ มาให้ว่ามีโครงการธรรมะอาสาถอดเทปของท่านพุทธทาสเพื่อมาบันทึกเป็นหนังสือ จึงลองทำดูค่ะ แรกก็เพราะเป็นงานอาสา และได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย แต่เมื่อได้ฟังทั้งคำสอน ทั้งเสียงจริงๆ ของท่านพุทธทาส และด้วยต้องทำความเข้าใจในประโยคพูดนั้นๆ ในการพิมพ์ ทำให้เข้าใจการดำรงอยู่ของชีวิต และการดึงสติกับอะไรก็ตามที่เข้ามากระทบได้เร็วขึ้นค่ะ และธรรมะที่ค่อยเตือนตัวเองอยู่เสมอคือ ปฏิจจสมุปบาท สิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี ค่ะ????????????

อรุณสุดา
10 กว่าปีที่แล้ว มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ และสนใจในหนังสือของท่านหลายเล่ม โดยเฉพาะ อิทัปปัจยตา ซึ่งทำให้ชีวิตทุกข์น้อยลง เข้าใจชีวิตมากขึ้น รู้จักการตัดผััสสะทั้ง6 เพื่อไม่ให้ทุกข์มาจับได้

ศุภกาญจน์ จำเริญรักษ์
น่าจะตั้งแต่เด็กๆ ครับ เพราะทุกเช้าเวลาประมาณตี 5 (ที่บ้านเรียก "หัวรุ่ง") จะได้ฟังเทปเสียงที่ท่านสอนธรรม เนื่องจากวัดแถวบ้านเปิดให้ฟังอยู่บ่อยๆ หลักๆ ก็น่าจะเป็น "ตัวกูของกู" ถ้าเราลด/ละ ที่จะถือตัวถือตน หรือยึดติดกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ ก็จะเป็นทุกข์น้อยลง คิดว่าอย่างนั้นน่ะครับ ????

วราวัฒน์ ป.
เล่มแรกที่ได้มีโอกาสอ่านคือ "คู่มือมนุษย์" และ ต่อด้วย "นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้" อ่านแล้วประทับใจมาก แม้จะไม่ได้เข้าใจถ่องแท้ในรอบแรก แต่ก่อให้เกิดศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมากขึ้น ทำให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ ศึกษา และปฏิบัติให้ได้อย่างที่ได้อ่านและฟังมา

รสนา
รู้จักท่านอาจารย์เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จากหนังสือคำกลอนต่างๆที่อ่านเข้าใจง่ายแต่ลึกซึ้ง ได้ไปที่ไชยาเมื่ออายุ 18-19 พระสงฆ์ที่นั่นสอนธรรมะเก่งมาก รวมถึงเรื่องเล่าช่วงเวลาที่ท่านใกล้มรณภาพ ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเป็นลำดับ โดยรวมแล้วเห็นความทุกข์ของตนเองบ่อยมากขึ้นๆ เพราะอะไรๆเป็นของเราทั้งนั้น ระลึกถึงสิ่งที่ท่านอาจารย์สอน พยายามศึกษาและปฏิบัติ

เล็ก
เมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อน ครั้งนั้นเป็นงานอุทิศบุญให้คุณพ่อผู้ล่วงลับ คุณตาได้นิมนต์ท่านมาเปิดสอนวิปัสสนา ตอนนั้นยังเด็ก ท่านเทศน์ สอนว่า "กรรม คืออะไร" ตอบ "กรรมคือการกระทำ" ท่านสอนธรรมะให้กับเด็ก จึงทำให้เข้าใจว่า ธรรมะสามารถเข้าได้ทุกเพศ ทุกวัย ท่านสอนให้อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง ทุกวันนี้มีจริตชอบไปใส่บาตรที่สวนโมกข์กรุงเทพฯ เพราะสถานที่ร่มรื่น เย็นสบาย พระที่มาบิณฑบาตร ฉันแบบจานแมว ซึ่งท่านพุทธทาสได้วางแนวไว้เป็นแบบอย่าง

สุวิมล
ครั้งแรกได้กราบท่านที่สวนโมกข์ ในปี 2528 ความนิ่ง เหมือนรูปปั้น ที่มีไก่เกาะอยู่ที่หัวเข่าท่านนิ่งมาก จิตที่รับรู้ได้ คือ เราอยากมีจิตนิ่งบ้าง จึงได้ตามอ่านประวัติ อ่านผลงานท่านอย่างต่อเนื่อง ฟังธรรมะจากท่าน บ้าง คู่มือมนุษย์ตามอ่าน จิตลดละกิเลส ได้ค่อนข้างมาก ตัวเบา และที่สำคัญเข้าใจหลักความจริงของสรรพสิ่งบนโลกในบี้ สิ่งที่นำมาปฎิบัติกับตนเองคือเรื่องไม่ยึดมั่น ถือมั่น รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ความทุกข์กาย ใจ หายไปค่อนข้างมาก

ยุพิน
ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ทำจิตให้เป็นปกติ...เจริญสติครับ

ธนเทพ
รู้จักท่านครั้งแรก ตอนเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2 วันรพี จากหยังสือดับทุกข์สิ้นเชิง เล่มละ 10 บาท เปลี่ยนชีวิตเลยค่ะ เป็นเล่มแรกที่ทำให้สนใจธรรมะของพระพุทธเจ้าจากที่ไม่เคยสนใจธรรมะเลย หลักธรรมคำสอนท่านที่นำมาใช้คือ พิจารณาขันธ์ 5 ท่านอธิบายเรื่องขันธ์ 5 ได้เข้าใจที่สุดสำหรับเราแล้ว ทำให้รู้ทันอารมณ์ขึ้น

เค้ก ชนิดา ????
เมื่อถึงคราวที่จะต้องบวชในสมัยอายุครบ 20 ปี เวลาอยู่ในวัดมันว่างจัด ผมมักจะชอบหาหนังสือธรรมะมาอ่านแก้เบื่อ โยมพ่อจึงขนหนังสือธรรมมะของท่านที่บ้านมาให้ประมาณ เกือบ 10 เล่ม ผมก็อ่านทุกเล่ม แต่มีอยู่เล่มนึง หน้าปกเขียนว่า คู่มือมนุษย์ฉบับสมบูรณ์ ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเนื้อหาในเล่มอ่านแล้วไม่มีความงมงายใดๆเลยไม่เหมือนเล่มอื่น ผมจึงตั้งใจอ่านสุดๆจบจบเล่ม และสมัครใจเป็นแฟนคลับของท่านพุทธทาสนับแต่บัดนั้น จนถึงตอนนี้ ผมใช้ชีวิติได้อย่างมีความสุขมากๆ ปัญหาทุกอย่างแก้ได้ด้วยธรรใของท่านพุทธทาส ขอบคุณครับ

ยศวีร์
... น่าประมาณปี 2500 เพราะน้าชายไปบวชที่สวนโมกข์ และท่านอาจารย์สำเริง และท่านชอบจากสวนโมกข์ไปอยู่ที่ สำนักสงฆ์บ่อม่วง เกาะแตน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ยังเด็กจึงยังไม่รู้อะไร แต่ได้หัดสวดมนต์แปลกับผู้ใหญ่ และได้เห็นหนังสือที่เขียนเรื่อง สว่าง สะอาดและสงบพิมพ์ และต่อมาก็ได้อ่านภาพธรรมะต่างๆ ที่ท่านอาจารย์พุทธทาสส่งไปให้ พ่อ แม่ ที่สมุย

พรทิพย์
  ได้ยินชื่อท่านพุทธทาสมานานแล้วและรู้สึกศรัทธาในตัวท่านแต่ก็ไม่เคยได้ศึกษาคำสอนของท่านจนกระทั่งได้อ่านหนังสือคู่มือมนุษย์ทำให้เห็น โอกาสในการดำรงชีวิตให้เป็นปกติสุข จึงมีความ ตั้งใจที่จะไปทำความรู้จักสวนโมกข์กรุงเทพ ที่นั่น น่าจะมีคำตอบดีๆอีกมากมาย    ขอกราบนมัสการขอบพระคุณท่านพุทธทาสเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ

ตวงพรรณ
รู้จักท่าน จากคำที่ว่า "อย่าบ้าบุญกันนักเลย เอาความรู้มาดับทุกข์บ้างได้ไหม" ก็เลยเกิดความสงสัย ทำไมถึงไม่เห็นเรื่องบุญสำคัญ ก็เลยอ่านๆๆ และจึงเข้าใจว่า ที่แท้พุทธศาสนาสอนให้รู้จักทุกข์ การเกิด การแก่ การตายล้วนเป็นทุกข์ ทำอย่างไรเราจึงจะพ้นทุกข์ คือหลุดจากวัฏสงสารนี้ไปได้ เหล่านี้จึงเป็นเหตุผลในการตั่งใจฝึก ปฏิบัติ เพื่อให้เกิดปัญญา

ธิดารัตน์
รู้จักท่านพุทธทาส จากการอ่านหนังสือที่ท่านเขียน ซื้อมาโดยบังเอิญ น่าจะปี 2546 เป็นหนังสือที่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เป็นความไม่รู้เรื่องที่อยากจะทำความเข้าใจ จากนั้นเริ่มอ่านหนังสือเล่มอื่นๆที่ท่านเขียนและฟังธรรมะท่านบรรยายมาเรื่อยๆ จากยูทิวบ์ ธรรมะที่นำไปใช้ในชีวิตคือ การทำงานคือการปฏิบัติธรรม

รัตนา
ได้เคยฟังเคยอ่านบ้างแต่ว่า ตัวเองไม่ค่อยเข้าใจจนได้มาสวนโมกข์กรุงเทพฯ เมื่อตอนปั่นจักรยานที่วสนรถไฟ เห็นรู้ท่านพุทธทาสถือไม้กวาด เหมือนกวาดอยู่ และมีคำว่าเหงื่อคือน้ำมนต์ ได้เข้ามาฟังคำอธิบายภาพปริศนาธรรมจากกลุ่มกิจกรรมนำชมรู้ประวัติท่านมากขึ้นและเข้าใจข้อธรรมมากขึ้นจนได้สมัครอาสานำชมเมื่อเปิดรับในกลุ่มกิจกรรมนำชม ได้รับการอบรม แต่ละภาพสื่อข้อธรรมอะไรบ้าง รู้สึกได้ว่าคนแรกที่ได้เข้าใจธรรมมากขึ้นคือตัวเราก่อนเลย พร้อมนำมาพิจารณาว่าในชีวิตประจำวัน ในทุกการกระทำคือการปฎิบัติธรรมอยู่แล้ว ฉนั้นฝึกทุกความคิด,การกระทำ,และคำพูด ให้เป็นไปในทางกุศลอยู่เสมอ อะไรที่รู้ว่าเป็นบาป(อกุศล)การเบียดเบียนก็ไม่ทำ ละชั่วทำดีตามคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และไม่ยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวเป็นตนเข้าใจกฎธรรมชาติคือความไม่เที่ยง "ตถตา" มันเป็นเช่นนั้นเอง ใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท เดินสายกลางแบบพอดีๆเดินสายกลางตามทางอริยมรรคมีองค์ 8 ตามที่พุทธองค์ชีทางทางสามารถพ้นทุกข์ได้ ทั้งหมดทำให้รู้สึกว่าพุทธศาสนาและเราชาวพุทธโชคดีที่มีท่านพุทธทาสอีกองค์หนึ่งที่ให้ความกระจ่างลึกซึ้งว่าพุทธศาสนาสอนอะไร ให้นำมาปฏิบัติ ได้ผลต่อตัวเองและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ทุกคนเข้าใจทำกันเสมอๆในการใช้ชีวิต โลกนี้ก็จะมีแต่ความสุขและสันติภาพ พ้นทุกข์กันถ้วนหน้า เป็นสิ่งที่ดีและช่วยกันเผยแพร่พุทธศาสนาให้สืบต่อไป เป็นทาสของพระพุทธเจ้าตามรอยท่านพระพุทธทาสค่ะ มีท่านพุทธทาสจึงมีหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญและมีกลุ่มกิจกรรมเพลิดธรรมนำชม เกิดขึ้น ได้สร้างประโยชน์ให้ผู้คนเข้าใจธรรมจากภาพ เข้าง่ายขึ้น เพลิดเพลิน ไม่น่าเบื่อ เช่นตัวเองได้รับ ขอบคุณอีกครั้ง เปลี่ยนตัวเองให้เป็นสวนโมกข์ในทุกที่พุทธทาสได้ทุกคน เสมอๆค่ะ

พัชรา วิชชุประภา
ไม่แน่ใจว่าครั้งแรกเมื่อไร แต่รุ้ว่า หนังสือของท่าน ทำให้ตัวเอง รักผุ้อื่นมากขึ้น คือจริงๆ ดิฉันมีความทุหข์ แล้วก้ออธิฐานไว้ ขอให้ได้เข้าใจธรรมเถิด จนวันหนึ่งบังเอิญเจอหนังสือของท่าน พุทธทาส ที่ตุ้หนังสือพระในบ้าน ซึ่งคุณพ่ออ่าน พอได้หยิบมาอ่านเท่านั้นแหละ วางไม่ลง อ่านไป แบบสนุกมาก เกิดความรัก และอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เลย คือ รักอ พุทธทาสมากๆ แม้จะยังเด้ก อาจจะยังไม่เข้าใจ ธรรมะชั้นปรมันต์ แต่หนังสือของท่าน ทำให้ฉัน รักผุ้อื่นมากขึ้น และเริ่มศึกษาพุทธศาสนาอย่างมาก และมารุ้ทีหลังว่า คุณปู่ก้ออ่านหนังสือของท่าน คนใกล้ชิดในศาสนาตัวเอง คือศาสนาซิกข์ก้ออ่านงานเขียนของท่าน และได้ไปสนทนาธรรมกับอ ศาสนาซิกข์ ที่ตัวเองเคารพ ท่านก้อบอกว่า ในสมัยนั้น ท่านก้อเคยเป้นตัวแทนชาวซิกข์ ไปพบท่านพุทธทาสที่ไชยา ท่านพุทธทาสให้การต้อนรับดีมาก . สรุปคือคนรอบๆตัว อ่านหนังสือท่านพุทธทาสหมดเลย. สนุกและโชคดีมากๆ เป็นบุญอย่างยิ่งที่ ได้รุ้จักท่านอ พุทธทาส ท่านทำงานเพื่อผู้อื่นจริงๆ รักท่านอ มาก ก็จะพยายามทำความเข้าใจธรรมะต่อไป ตัดตัวกู ของกูต่อไป และทำงานสืบสานงานของท่านต่อไป .สาธุ ถ้าใครยังไม่เคยอ่านงานของท่านอ ขอแนะนำ สุดยอด มากๆ เกิดเป้นมนุษย์ทั้งที ต้องอ่าน มีค่าสุดๆๆๆ ประเมินราคาไม่ได้เลย. แต่เด้กวัยรุ่นรุ่นใหม่ ยังรุ้จักท่านน้อยมาก และแทบไม่เคยอ่าน .เท่าที่คุยๆละสอบถามมา.

รานี
รููจักท่านที่ร้านหนังสือใกล้บ้านค่ะ และได้มาที่สวนโมกข์กทม ร่วมกิจกรรมและอ่านหนังสือของท่าน เสมอ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็พอเข้าใจว่าธรรมะคือหน้าที่ มีความไม่เห็นแก่ตัว มีความสบายใจ  รู้จักปล่อยวาง ละตัวกูของกู

วิภา
บอกไม่ได้ว่ารู้จักท่านครั้งแรกเมื่อใด แต่ธรรมะของท่านได้แทรกซึมเข้ามาในชีวิตอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ความสนใจในธรรมะหลายเรื่องได้ความกระจ่างจากงานเขียนของท่าน ไม่ว่าจะเป็น อิทัปปัจยตา ปฏิจสมุปบาท ตถตา และอื่นๆอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอธิบายคำว่า ธรรมะ ได้อย่างยอดเยี่ยม ท่านบอกว่า ธรรมะมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ ไม่สามารถหาคำพูดที่เป็นภาษาของมนุษย์มานิยามได้ แต่ขอนิยามพอสังเขปว่าคือ หน้าที่ เพราะไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่มีหน้าที่ การปฏิบัติํธรรม คือการปฏิบัติหน้าที่ คำสอนของท่านในเรื่องนี้ ทำให้เรารู้ว่าเราสามารถปฏิบัติธรรมได้ตลอดเวลาตราบใดที่เรายังคงปฏิบัติหน้าที่ตามภาวะที่เราเป็น

นวลจันทร์
รู้จักจากหนังสือที่มีคนเอามาวางไว้ครับ อ่านแล้วรู้สึกว่า แตกต่างจากเล่มอื่นๆ ที่เคยอ่านมา หลังจากนั้นก็ตามอ่านหนังสือท่านอาจารย์ เท่าที่มีโอกาส ส่วนข้อที่ว่าเอาธรรมะอะไรไปใช้บ้างอันนี้ตอบลำบาก แต่ที่แน่ๆ ข้อหนึ่งก็คือ เวลาจะทำบาปสักทีหนึ่ง ตัวหนังสือของท่านอาจารย์จะผุดขึ้นมาในหัว ... อันนี้แหละ ธรรมะของอาจารย์ช่วยไว้ของจริง

สมรักษ์
2008-2009 จากหนังสือคู่มือมนุษย์ เพื่อนที่เคยบวชครั้งที่ท่านพุทธทาส ยังมีชีวิตอยู่นำมาให้ นำธรรมของท่านมาใช้ทุกอย่าง ทุกวัน คิดตาม ปฏิบัติตาม วันที่ทุกข์ที่สุดเหมือนโลกแตก เอาส่วนดีที่มีอยู่ อย่าตามหาหนวดเต่า ตายเปล่าเอย

โน๊พ นพชำนาญ
รู้จักท่านพุทธทาสครั้งแรกต้องเรียนชั้นประถม (ตอนนี้ 40 ขวบ) เพราะเป็นคนใต้ และท่านเป็นพระที่ดังมากในภาคใต้ ตอนเด็กได้อ่านหนังสือคำกลอนของท่านแล้วประทับในเนื้อหาและวรรณศิลป์ของท่าน ธรรมะของท่านที่พยายามนำมาใช้คือ "เป็นอยู่ด้วยจิตว่าง" จงทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง ยกผลงานให้ความว่างทุกอย่างสิ้น กินอาหารของความว่างอย่างพระกิน ตายเสร็จสิ้นแล้วในตัวแต่หัวที ท่านผู้ใดว่างได้ดั่งว่ามา ไม่มีท่าทุกข์ทนหม่นหมองศรี เป็น “เคล็ด” ที่ใครทำได้สบายเอย

อมรรัตน์
...รู้จักมานาน แต่มีความรผู้สึกว่าเมื่ออ่านงานของท่านแล้วเครียด จนเมื่อมาร่วมกิจกรรมที่สวนโมกข์กรุงเทพกับดลุ่มอยู่เย็นเปผ็นประโยขน์ทำให้เข้าใจพุทธศาสนาและสามารถนำไปปฏิบัติได้กับชีวิต พิมรู้จักพ์ข้อความ

สุชาติ
*** ตั้งแต่ผมจำความได้..ทั้งครอบครัวผมก็ฟังธรรมะท่านทางวิทยุ เพราะได้สาระประโยชน์ในการดำเนินชีวิตจนได้มาตอบแทนพระคุณเป็นวิทยากรเพลินธรรมนำชมสวนโมกข์กรุงเทพฯ...ประทับใจผมมิรู้ลืมครับ สาธุ

ยุทธพล
เห็นรูปท่านตอนเด็กๆ และได้รู้จักมากขึ้นจากธรรมะที่ท่านสอน จงทำงานทุกอย่างด้วยความไม่มีตัวตน และเกิดมาเพื่อทำให้โลกนี้งดงาม

N
กระผมรู้จักท่านพุทธทาส ครั้งแรกจากการอ่านหนังสือเก่าๆ ปกขาดพบที่ห้องสมุดโรงเรียนต่อมาได้ติดต่อกับคณะธรรมทานที่ไชยา และขอรับหนังสือรายไตรมาส (พุทธสาสนา” และอ่านหนังสือธรรมโฆษณ์เล่มแรก คือ อิทัปปัจจยตา และเล่มอื่นๆ อีกหลายเล่ม ได้มากราบท่านพุทธทาสครั้งแรกในปี พ.ศ. 2522 ได้นำหลักคำสอนท่านไปใช้ในชีวิตประจำวันคือ การฝึกอานาปานสติ การลดละเรื่องไสยศาสตร์ ฯลฯ และได้นำแนวคำสอนท่านไปเผยแพร่แก่เยาวชนและบุคคลทั่วไป โดยถวายงานเป็นอาจริยบูชาท่านเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

สังขตะ มรรคญาณ/ดอกโมกข์ โคกศิลา
รู้จักท่านเมื่ออายุ 18 ปี ในร้านหนังสือแห่งหนึ่ีง ที่มีหนังสือ "คู่มือมนุษย์" วางเรียงอยู่หลายเล่ม เกิดความสนใจว่าหนังสืออะไรใช้ชื่อได้เท่มาก จึงเปิดอ่านและพยายามทำความเข้าใจธรรมะในแต่ละบทที่ท่านเขียนไว้สั้นๆแต่กินใจความลึกซึ้ง ธรรมะที่จำมาใช้คือการสำรวจใจตน และการนึกถึง รูปปั้นลิงที่ปิดหู ปิดตา ปิดปาก เพื่อเตือนใจให้ลดการเสพข่าวสารเรื่องราวต่างๆแล้วหันมาสำรวจใจตนเองดีกว่า

อุลัยวรรณ์
ช่วงปี 2521 หรืือ 2522 (ไม่แน่ใจ) จะเป็นลักษณะการเห็นจริงตามนั้นมากกว่า เช่น หลัก “อิทัปปัจจยตา“ จริงๆยังมีอีกหลายเรื่องของการนำธรรมะมาปรับใช้ให้ตรงกับจริตของตัวเองหรือแม้เรื่องเล่าของท่านพุทธทาส(เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา) ก็เป็นตัวอย่างของการพูดตรง พูดจริง ไม่ปกปิดข้อเสียหรือสิ่งไม่ดีที่ท่านเองเคยทำมาแล้ว ใน “ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม“ หากมองดีๆ ไม่มีอคติต่อ พระศรีรัตนตรัย ก็พอจะทราบได้ว่าท่านหมายถึงอะไร(อย่ายึดวัตถุธรรมแม้ว่าท่านผู้นั้นจะเป็นศาสดาของเรา) ตามหลักกาลามสูตรที่พระพุทธองค์ตรัสสอน แต่ด้วยสำนวนของท่านพุทธทาสที่ค่อนข้างเป็นสำนวนของชาวต่างจังหวัด บางครั้งดูดุดัน ทำให้หลายคนรับไม่ได้ แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่า “ไม่ใช่เช่นนั้น“

กังวาน
รู้จักด้วยปฏิทิน ปี พ.ศ.2543(ค.ศ.2000) เป็นภาพท่านพุทธทาส 2 ท่านสนทนาธรรมกันด้วยหัวข้อธรรม 12 ข้อ มีบ้างข้อที่นำมาทบทวนในระหว่าง 20กว่าปีนี้ได้แค่ ไม่เกิน 3 ข้อ เช่น เกิดมาทำไม เกิดให้เป็นมนุษย์ อย่าทำผิด จากกิจกรรมวันนี้จะกลับมาทบทวน ใคร่ครวญ ธรรมะของท่านพุทธทาส เพื่อประคองชีวิตช่วงเวลาที่เหลือนี้ให้มีประโยชน์ยิ่งขึ้น ค่ะ

อรรคพร บัวสรวง
รู้จัก​ท่านครั้งแรกจากร้านหนังสือใกล้บ้าน​ หนังสือราคาเล่มละ​5บาท​ ตอนนั้นเรียนมัธยม​ต้น​ อยากเข้าใจชีวิต​ ชอบมากถึงจะอ่านไม่เข้าใจนัก เพราะท่านสอนไม่เหมือนใครเลย.... โชคดีได้มีโอกาส​มา.. สวนโมกข์​ ไชยา​ ครั้งแรกอายุ​ สัก30ปีแล้ว​ เกิดปิติ​ ขนลุก​ ที่จะได้พบตัวจริงเสียงจริง​ ท่านเมตตามากนั่งสนทนาด้วยพักใหญ่​ .. สรุป​ สอนให้เราอยู่เหนือดีเหนือชั่ว​... ฯ​ ประทับใจมากเพราะท่านสร้างแรงบันดาลใจให้เรามีศรัทธา​อยากปฏิบัติ​ธรรม​ กราบน้อมระลึกถึงพระคุณ​ท่านอาจารย์​

สุพร​ ไพโรจน์​บริบูรณ์​ 69ปี
พุทธทาส จักอยุ่ไปไม่มีตาย .ลืมเล่าไป ท่านพุทธทาส ให้ความสำคัญในการให้ทุกศาสนาเข้าถึงหัวใจคำสอนของตน ท่านจึงพยายามศึกษาศานาต่างๆ เชิญ ผุ้มีความรุ้ในศาสนาอื่นๆ มาสนทนาธรรมด้วย ท่านอ. ยังอยุ่ เสมอไป ไม่มี ตายจริงๆ ตอนท่านเสีย หนุแค่ 5ขวบ แต่หนังสือของท่าน กลับเป้นประดุจแสงสว่าง ให้หนุ ในวัยนี้ . ท่านยังอยุ่จริงๆ ด้วย. สาธุท่านอ . พุทธทาส ผู้เป็นที่รักยิ่ง.

รานี
พบท่านครั้งแรกผ่านปฏิทินตั้งโต๊ะในสำนักงานส่วนกิจการนักศึกษา มวล. ที่แม่ทำงานอยู่ ตอนนั้นเกือบทุกโต๊ะ มีรูปท่านพุทธทาสและคำสอนในแบบกลอนอยู่ทุกโต๊ะเลย ในใจก็นึกว่าเอ๊ะ…พระองค์นี้ชอบแต่งกลอนด้วย อ่าน ณ ตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจนะ555 จนกระทั่ง ม.3 กำลังจะขึ้น 4 เริ่มสนใจพระพุทธศาสนาจากการต้องไปแข่งขันพระพุทธศาสนาเพชรยอดมงกุฎ รวมทั้งแม่ก็จัดค่าย หนุ่มสาวเข้าใจชีวิต ที่โครงสร้างหลักของโครงการคือ แนวคิดของท่านพุทธทาสผสานเข้ากับกระบวนการจิตปัญญา มีพระอาจารย์สุชาติจากสวนโมกข์มาเทศนาธรรม สอนสมาธิ ซึ่งแม่ก็ชวนมาร่วมค่ายนี้ คำสอนแรกของท่านพุทธทาสที่จำได้ขึ้นใจ คือ เป็นอยู่อย่างต่ำ มุ่งกระทำอย่างสูง แต่คำที่ยึดมาเป็นหลักในการใช้ชีวิตคำหนึ่งที่ท่านสอนออกมาในธรรมะ 9 ตา คือ ตถตา เช่นนั้นเอง ซึ่งเป็นคำที่หากย้อนกลับไปก็ได้ยินครั้งแรกจาก อาจารย์หมอสงัด ที่วัดประดู่ พัฒนาราม นครศรี ตอนนั้นไปบำเพ็ญประโยชน์ที่วัด ท่านเล่านิทานเซนให้ฟัง เรื่องของ พระเซน ณ เกาะแห่งหนึ่ง ถูกหญิงสาวกล่าวหาว่าตั้งท้องกับพระองค์นี้แต่ความจริง หญิงคนนี้แอบได้เสียกับลูกชายชาวประมง ซึ่งพระเซนท่านก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร กล่าวแค่เพียงว่า ตถตา เช่นนั้นเอง / It Is So ซึ่งตอนนั้นจำเรื่องเล่านี้ได้ แต่ยังไม่เข้าใจมาก จนมาเจอคำนี้จากค่ายหนุ่มสาวเข้าใจชีวิตอีกครั้ง ก็เลยสามารถเข้าใจได้ดี และนำมาเป็นคติหนึ่งในชีวิตที่เอามาใช้ได้ทุกเหตุการณ์ เช่น ตอนอกหัก ก็ใช้ / ตอนเศร้าเสียใจ ก็รีบยอมรับอารมณ์ที่เกิดขึ้นละก็บอกว่า มันก็เป็นเพียงเช่นนั้นเอง กล่าวค่อ คำสอน ตถตา เช่นนั้นเอง ทำให้สามารถผ่านปัญหาที่เข้ามากระทบในความรู้สึกได้ สามารถมองว่ามันคือสิ่งที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย ก็ไปโยงเข้ากับอิทัปปัจจยตาได้อีก เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงมีไม่ได้ และเป็นที่แรกด้วยที่เห็นภาพปฏิจจสมุปบาท และก็เริ่มสนใจจนกระทั่งนำมาศึกษาต่อในทุกวันนี้ แน่นอนว่าไม่ได้นำทุกคำสอนของท่านมาใช้ทั้งหมด เพียงแต่เลือกบางคำสอนที่มันตรงกับจริตและการนำไปใช้ได้เหมาะสมกับตัวเราก็เท่านั้น ขอขอบคุณแม่/ป้าลี/ทุกๆท่านที่เกี่ยวข้องกับค่ายหนุ่มสาวเข้าใจชีวิต สำหรับการชี้แจ้งปัญญาทางธรรมในการดับทุกข์ครับ #พุทธทาสในความทรงจำ #น้อมรำลึกวาระการเยี่ยมสวนโมกข์2565

วสุธา นราพงศ์ ( นะโม )
นานมากแล้ว จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่ทุกวันนี้ ฟังทุกวันในยูทูปฟังทุกเรื่อง และ พยายามปฏิบัติให้ได้ และทำให้เราได้มาฝึกสมาธิและถือศีล5ได้ทุกวัน กราบบ ไหว้ทุกวัน ที่มาของการได้ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าโดยผ่านมาจาก ท่านพุทธทาส นั้นเนื่องจากคนที่บ้าน ให้กลับมาพิจารณาตนเอง จึงได้หันกลับมาทำสมาธิทุกเช้าเย็น ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็น

พัชรินทร์ พรหมดำ
ดูVDO วาระสุดท้ายท่านพระพุทธทาส ศรัทธามากค่ะ ความรู้สึกขอได้เข้าไปกราบท่านและเรียนรู้ธรรมที่ท่านสอนค่ะ ธรรมที่นำไปใช้ทุกขณะที่มีสติรู้ทัน ผัสสะ วันสิ่งที่ต้องเข้าใจ ธรรมะสี่เกลอ การปฎิบัติแบบอานาปานสติ จนถึงปัจจุบันค่ะ_/\_

ชุติมา ศรวงศ์มงคล
รู้จักท่านเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนเนื่องจากท่านจะได้รับการนิมนต์มาที่โรงเรียนเพื่อสอนธรรมให้กับเด็กๆที่อยู่ระแวกใกล้ๆกับวัดสวนโมกข์ ไชยา ท่านสอนว่าคนเราต้องขยันทำงาน การทำงานคือการปฏิบัติธรรม ทำตัวให้เบา ให้ว่างปล่อยวาง ตอนเด็กๆเราก็ไม่เข้าใจ รู้แต่ว่าต้องเป็นคนดี และขยัน ไม่ขึ้เกียจ ชีวิตจะก้าวหน้า ตัวกู ของกู ไม่มี ค่ะ และปัจจุบันเราย้อนกลับมาศึกษา สิ่งที่ท่านสอนนั้นความความจริง เป็นธรรมะที่นำมาดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี และทำให้เราเป็นคนที่ไม่จนทั้งทางธรรมและทางโลก อยู่อย่างพอเพียง ทุกอย่างไม่มากไม่น้อย เพราะต้องเป็นคนดี และขยัน ตามคำสอนของท่านที่จำจนขึ้นใจ

สุดา
เห็นภาพข่าวพิธีศพท่านตอน11ขวบ ก็เกิดความสงสัยว่าทำไมเผาแบบง่ายๆจัง จากนั้นได้ทราบข้อมูลว่าท่านอาพาธแต่ไม่รับการรักษา ยิ่งทึ่งเข้าไปใหญ่ จากนั้นจึงติดตามคำสอนและศรัทธาในคำสอนของท่าน ธรรมะที่นำมาใช้จากท่านคือ อิทัปปัจจยตาและระวังตัวกูของกูมันกัดเอาครับ

ปัณณทัต
รู้จักนามท่านนานมาก ตอนอายุ ๑๘ เคยหยิบหนังสือท่านมาอ่าน ไม่สนุก ตอนอายุ ๒๐ บอกว่าไม่ถือแล้วพุทธศาสนา พออายุ ๒๕ เคยตามไปถึงสวนโมกข์ที่ไชยา ฟังธรรมท่าน อ่านหนังสือก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ จนปี ๒๗ หลังมีชีวิตจริง ทำงานเป็นหมอมาได้ ๒ ปี จึงพบว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่วิชาหมอไม่พอใช้ให้ตัวเองมีสุข คลายทุกข์ ฯลฯ เพื่อนที่ทำงานบอกว่าเหมือนหมอจะบ้าไหม ? ตอนนั้นไปทั้งวัด โบสถ์ สุเหร่า ฯลฯ เอาหลายหนังสือมาอ่าน ๆ ก็ไม่ได้คำตอบ " ลองบวชไหม ?" " บวชที่ไหน ?" พอดีบ้านอยู่นคร ก็บวชที่บ้านแล้วไปขออยู่ที่สวนโมกข์ไชยา กะว่าหากอยู่ ๑ เดือนไม่ได้คำตอบอะไรเอาไปใช้ในชีวิตแบบดี ๆ ได้ ก็จะย้ายไปหนองป่าพง แล้วก็ต่อไปหา อ.บัว ที่บ้านตาด ... อยู่ไม่ทันครบเดือน โอ้โห !!! รหัสธรรมของพระพุทธเจ้าช่างยิ่งใหญ่อะไรปานนั้น กราบน้อมขอบคุณท่านอาจารย์และทุกท่านที่สวนโมกขพลารามมาแต่นั้น ตอนลาสึก ท่านบอกว่า เอาธรรมะ ๔ เกลอนี้ไปใช้เป็นพอ ... บอกได้แต่ว่าจากนั้น ทบทวนธรรมนำมาใช้อย่างที่ท่านบอกไว้ว่า จะคิดจะทำอะไรให้นึกถึงพระพุทธเจ้าท่านไว้

บัญชา พงษ์พานิช อายุ ๖๕ ขวบครับ
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง"ภาษาคน ภาษาธรรม" ประทับใจเรื่อง พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ แท้จริงแล้ว คือธรรมอันเดียว

ไววิทย์ จันทร์เพ็งเพ็ญ
เมื่อครั้งไดพบกับความทุกแล้วระงับดับไม่ได้ จึงนำคำสอนของท่านพุทธทาสมาใข้ในการดำเนินชีวิตเพื่อเป็นไปแห่งการหลุดพ้น

สุรเกียรติ์
รู้จักท่านครั้งแรกจากหนังสือเล่มเล็กๆที่ชื่อ คู่มือปฏิบัติอานาปานสติฉบับสมบูรณ์ / ทุกวันนี้พยายามใช้ธรรมะอะไรก็ได้ครับ ที่ทำให้ไม่เกิดความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใด เช่น “ตาเห็นรูปสักว่าเห็น หูฟังเสียงสักว่าได้ยิน ….” หรือ “สังเกตุความไม่เที่ยงของขันธ์ 5 เพื่อให้เห็นอยู่เป็นประจำในใจว่า มันมีแต่ขันธ์ 5 เท่านั้นไม่ได้มีตัวตนอะไร จะได้คลายความยึดมั่นถือมั่นลงได้”

วรวิทย์ แซ่ตั๊น
เห็นหนังสือท่านอาจารย์มากมายที่บูธหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาตินานมากแล้ว และเคยได้เป็นของขวัญปีใหม่จากเพื่อนด้วย วันนึงตัวเองได้มาทำงานที่ BIA อาจารย์เคยบอกว่า "ถ้าไม่ทำตามที่สอน อย่ามาออดอ้อนเรียกอาจารย์" ถึงวันนี้คิดว่าตัวเองเรียก "อาจารย์" ได้แล้วค่ะ ธรรมะที่นำมาใช้ ก็คือ "ชีวิตเป็นครูอยู่ในตัวมันเองทุกวินาทีที่ดำเนินไป หากแต่ไม่รู้จักเรียน"

จิตรา เกี้ยงบางยาง
1. ถ้ารู้จักในลักษณะรูปร่างหน้าตาก็คงตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เลยครับเห็นท่านบนหนังสือธรรมะทั่วไป แต่ถ้ารู้จักตัวตนที่แท้จริงก็ใน YouTube ครับ 2. "ตัวกูของกู" ครับ เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันลดอัตตาของตัวเอง และไม่ยึดติดอารมณ์, ความรู้สึกมากเกินไปครับ

อรรถชัย
รู้จักท่านครั้งแรกน่าจะประมาณปี2552 ค่ะ จากหนังสือของท่านในห้องสมุดมหาวิทยาลัย ส่วนธรรมน้อมนำมาใช้คือ ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ สงบ ร่มเย็น และเป็นประโยชน์ ค่ะ

ผักบุ้ง
...เมื่อตอนอายุ สัก 14 ขวบ ที่โรงเรียน จะมีคำคม คติสอนใจ ติดไว้ตามต้นไม้ ข้าพเจ้า สะดุด กับประโยค ที่ว่า การงาน คือค่าของคน จดจำฝังไว้ในใจ เหมือนตั้งใจอยากนำคติธรรมคำนี้ นำไปใช้ในอนาคต อยู่มาวันนึง ได้ ฝันเห็นพระสงค์รูปหนึ่ง ท่านนั่งอยู่บน ก้อนหินในส่วนป่า แห่งหนึ่ง ในความฝัน ท่านไม่ได้สนทนาอะไรกับ ข้าพเจ้า เพียงแต่มองข้าพเจ้าด้วย สายตาที่เมตตา ข้าพเจ้าตื่นจากฝัน ไม่ได้ตะหนักคิดอะไรมากมาย ตอนนั้น ไม่ได้สนใจธรรมะ ไม่ได้รู้จัก ท่านพระพุธทาส เป็นใคร จนเวลาผ่านไป ถึงตอนปลายปี ที่ ญาติ ได้เอาปฏิทินตั้งโต๊ะอันนึง มาวางไว้ ในบ้าน ในปฏิทิน เป็นรูปพระภิกสุ ท่านนั้นที่ข้าพเจ้าเคยฝันเห็น ในบรรยากาศ ภาพในปฏิทินเหมือนในฝันทุกอย่าง เลย กลับไปตระหนักคิด ถึงความฝัน ว่าคงไม่ใช่ความบังเอิญที่เราจะฝันแบบนั้น เลยถาม ญาติ ถึง ชื่อท่าน และถามประวัติท่าน กับญาติ จนวันนี้ ข้าพเจ้าเอง ได้ยึดหลักคำสอน ของท่านนำมาดำเนินชีวิต อย่างไม่ละเลย นั่นคือ การงานคือค่าของคน ค่ะ

สุกันยา
จำไม่ได้ค่ะว่ารู้จักท่านพุทธทาสตอนไหน แต่คำสอนของท่านทำให้รู้และเข้าใจคำสอนของศาสนาพุทธมากขึ้น

จัทร์หอม
ไปงานศพที่สงขลา ขากลับ ญาติๆพาแวะเยี่ยมชมโรงมหรสพ ทางวิญญาณ เดินผ่านท่านไป โดยไม่ทราบว่าท่านคือใคร ท่านยิ้มให้และมีไก่แจ้สีสวยเกาะอยู่บนเข่าของท่าน ประมาณปี2527 และได้ใช้อนาปานะสติมาโดยตลอด ทำให้ชีวิตพลิกจากร้ายกลายเป็นดี และมองโลกอย่างรู่เท่าทัรตามความเป็นจริง น้อมกราบ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ

ราตรี คงสุวรรณ
เมื่อ พ.ศ. 2532 จากการเรียนในมหาวิทยาลัยฮะ ชื่นชมคำสอนเรื่องการเป็นอยู่อย่างต่ำ มุ่งกระทำอย่างสูง เลยนำมาปรับลดความต้องการในการเป็นอยู่ของชีวิตตัวเอง และพยายามเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่มากระทบใจในแต่ละวันฮะ

สุเมธ
... รู้จัก. ท่าน. ปี. ๕๕. ณ.สวนโมกข์กรุงเทพฯ เพราะได้เข้ามาเยี่ยมชม. สวนโมกข์กรุงเทพฯหลังจากนั้น ก็มาสวนโมกข์ตลอดเลยค่ะ ได้ธรรมะ. จาก ท่าน ..ธรรมะคือ. ธรรมชาติ...

ณพารี
โดยบังเอิญ เข้าร้านหนังสือของมหาลัย เลยหาซื้อหนังสือออกเพราะกลัวอายคนอื่น เจอหนังสือชื่อ แก่นพุทธศาสน์ เลยลองซื้อมาอ่าน เป็นหนังสือธรรมะเล่มแรก แต่กลับพบว่าจะได้เจอแสงเทียนส่องทางชีวิต ทำให้เข้าใจตนเอง ใช้เป็นหลักในการศึกษาธรรมมะเล่มต่อๆไป

abugman forestparkfarm
รู้จักท่านอาจารย์พุทธทาสจากผลงานตีพิมพ์และสื่อคำสอนต่าง ๆ เมื่อเริ่มอ่านหนังสือพุทธศาสนาก็รู้จักผลงานของท่านอาจารย์ โดยท่านอาจารย์นำความรู้ ความเข้าใจเรื่องศาสนาพุทธที่แท้จริง ปราศจากความงมงาย ปราศจากอวิชชา ทำให้เรากลับมาใคร่ครวญเกี่ยวกับตัวเราเอง

ภัควัฒน์
ไม่แน่ใจครับ ว่ารู้จักท่านพุทธทาสครั้งแรกเมื่อใด คิดว่าน่าจะเป็นช่วงศึกษาในชั้นอุดมศึกษา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต รวมถึงได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส กรุงเทพ รวมถึงที่วัดอุโมงค์ เชียงใหม่ ครับ ได้อ่านหนังสือคู่มือมนุษย์ หนังสือชีวิตในทรรศนะพุทธทาสภิกขุครับ ธรรมะที่นำไปใช้คือ หลักธรรมปฏิจจสมุปบาท อัตตา ตัวกู ของกู เช่นนั้นเอง ฯลฯ ช่วยให้จิตใจคลายความยึดมั่นถือมั่น ในอุปาทานขันธ์ห้า ได้ครับ

นายศิครินทร์ เขียวแก้ว
เมื่อ30กว่าปีมาแล้วสมัยเป็นนักศึกษาและเริ่มทำงานได้อ่านหนังสือ ตัวกูของกู เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่รู้สึกชอบมากๆหลายประโยคติดตรึงอยู่ในใจนำมาเป็นแนวในการใช้ชีวิต หลายครั้งที่หลงไปกับสมมุติด้วยตำแหน่ง ลาภยศสรรเสริญ ต้องกระชากตัวเองแรงๆกลับมาด้วยคำสอนของท่าน และเมื่อถึงวันที่สนใจการฝึกปฏิบัติก็ได้เทปธรรมะเรื่องอานาปานสติของท่านเป็นแนว ข้อธรรมของท่านลึกซึ้งมาก บางเรื่องฟังหลายครั้งถึงจะรู้สึก”อ๋อ”

นัท
เห็นแต่เด็ก ที่บ้านมีนาฬิกาแขวนเป็นรูปท่านถือไม้เท้า มีไก่อยู่ร่วมเฟรมด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทำไมอยู่ในนาฬิกา กระทั่งมีศัพท์คำนึงจากนายกฯยุคนึง ที่ดังเป็นวาทกรรมเลยเชียว ‘ตถตา’ ชื่อท่านจึงปรากฏให้รู้จักอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าท่านคือใครมากเท่าไหร่ และต่อมามีรายการทีวีนำเสนอประเด็นธรรมโฆษณ์ การเดินธรรมยาตรา นามของท่านก็ปรากฎมากขึ้น และเหตุการณ์ที่ทำให้ได้รู้จักท่านจริงๆ คือการหยิบหนังสือ’คู่มือมนุษย์’ ของใครก็ไม่รู้ ที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องทำงานมาอ่านแบบไม่ตั้งใจ ไม่กี่หน้าแรกที่ได้อ่าน รับรู้ได้ถึงความรอบรู้ รอบด้าน ลึกซึ้ง ของท่าน จนกลายเป็นการอ่านแบบตั้งใจเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาและเพื่อทำความรู้จักท่านด้วย และหลังจากนั้นก็ได้พบกัลยาณมิตรอีกมากที่นำพาให้เราได้รู้จักท่านในอีกหลายแง่มุม ส่วนธรรมะที่นำมาพิจารณาทุกครั้งในยามที่ชีวิตเริ่มหลุด ไม่อยู่กับร่องกับรอย คือ สงบ เย็น เป็นประโยชน์ ครับ

สะมะศะกะดิ์ สะมะจิตะระ
รู้จักท่านผ่านหนังสือของท่านเมื่อ4 ปีก่อน. ยิ่งอ่านยิ่งศรัทธา เคารพนับถือในความรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งของท่าน. มีหนังสือของท่านเกือบ 50 เล่ม. ตั้งใจจะไปกราบที่สวนโมกข์เพื่อระลึกถึงท่าน เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ฟังธรรมะจากท่านขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่พุทธทาสจักไม่มีวันตาย อย่างที่ท่านกล่าวไว้

สุดา
เคยได้ยินครั้งแรก เมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัยยังเด็ก เพราะได้อ่านหนังสือ แก่นพุทธศาสน์ และคู่มือ-มนุษย์ ทำให้รู้ว่า ท่านอยู่ที่สวนโมกข์ ไชยา ยังไม่เคยไปสักที แต่ก็ดีใจมากที่รู้ว่า มีสวนโมกข์กรุงเทพ ----------------- ธรรรมะ อะไรที่ได้ใช้ ? ตอบว่า "สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ" คือ ธรรมทั้งหลายไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่น และคำว่า "ตถตา" มันเป็นเช่นนั้นเอง อีกประการหนึ่งคือ ได้รู้จากหนังสือ อริยสัจจากพระโอษฐ์ว่า สิ่งเร่งด่วนของชีวิต คือ การได้รู้อริยสัจ และการสงเคราะห์สังคมที่ดีที่สุด คือการสงเคราะห์ให้คนอื่นๆ ได้รู้ถึง อริยสัจ อันเป็นหนทางแห่งการหลุดพ้น คือ พ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงด้วย อริยมรรคมีองค์ 8

ADMIN_5MIN
รู้จักพระอาจารย์พุทธทาสจากผลงานหนังสือหลายเล่ม เริ่มจากชุดหนังสือเพื่อประกอบการทำงานในฐานะอาจารย์ เมื่อปี 2524 จากนั้นติดตามผลงานของท่านตลอดมาจนปัจจุบัน..ทั้งหนังสือและพระธรรมเทศนผ่านสื่อ youtube....จุดหักเหสำคัญคือ ทุกข์แสนสาหัสจากการพลัดพรากภรรยาอันเป็นที่รักในวัยไม่อันควร...ในปี 2538 จึงหันมาหยิบหนังสือคู่มือมนุษย์ ซึ่งไม่เคยอ่านจบเลย...แต่สามารถอ่านจบภายในคืนเดียว..ด้วยความปิติ น้ำตา ที่เต็มเปี่ยมที่ท่านถ่ายทอดหลักธรรมอันสูงส่งของพระพุทธองค์...ให้รับรู้รับทราบในอริยสัจจ์สี่..ตราบจนปัจจุบันยังใช้บทสวดมนต์สวนโมกข์ และพระธรรมเทศนาของท่านในการปฏิบัติ..ภาวนา..

โชติชนะ
เมื่อปี 2536 ได้อ่านหนังสือธรรมะ เรื่อง “ อานาปานสติ” ของท่านพุทธทาส และจากเล่มแรกท่ีอ่าน ก็หยิบหาอ่านเรื่อยๆๆ มา ของท่านท่ีมีออกมาเป็นชุดหนังสือมากมาย ท่านได้สอนธรรมะ เห็นหลักธรรม เป็นหน้าท่ีท่ีนำมาลงมือ ทำ ปฏิบัติ ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ ทุกๆวัน ทุกๆขณะ และฝึกฝนตนให้อยู่กับปัจจุบัน และลมหายใจ

วิไลพร
เล่มแรกที่อ่านคือคู่มือมนุษย์และเป็นการเริ่มต้นที่สนใจธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจัง

มยุรี
รู้จักครั้งแรกจากการเห็นคำสอนผ่านข้อความต่างๆ เเต่ก่อนไม่ค่อยได้อ่านธรรมะของท่านอย่างจริวจังลึกซึ้งแต่ภายหลังจากเข้ามาอุปสมบทเมื่อพศ.2557 ก็อ่านงานธรรมะของท่านประกอบกับเรียนรู้พระไตรปิฏก

พระภัทรพล
ฟังธรรมะ​จากท่านตั้งแต่อยู่ชั้นประถม​ ตอนนั้น รู้สึกว่าท่านเทศน์ไม่สนุก แต่สาระที่ท่านเน้นตรงกับความสนใจ ท่านใช้ภาษาง่ายๆในวลีที่เป็นแก่นของธรรม อย่างเช่น ตัวกู ของกู การศึกษา​เหมือนหมาหางด้วน ในวัยมัธยมก็ชอบซื้อหนังสือของท่านมาอ่าน และเคยถูกมองว่า วัยรุ่นอ่านธรรมะเป็นเรื่องเชย แต่ส่วนตัว​คิดว่า มันเท่นะที่อ่าน อิทัปปัจยตา นิพพานที่นี่ และเดี๋ยวนี้​ พอถึงวันนี้ก็มีความรู้มากขึ้น เช่น รู้ว่าความอยากเท่ ก็คือความเป็นตัวกูนั่นเอง

วันเพ็ญ​ เฮ​ลเลอร์​
รู้จักเพราะตอนเด็กๆเห็นคุณพ่ออ่านหนังสือของท่านพระพุทธทาส และมีรูปของท่านแขวนไว้ที่บ้าน พอโตขึ้นมาหน่อย คุณพ่อก็ให้อ่านหนังสืิอคู่มือมนุษย์

ภาริตา
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 4 ค่ะ ทางคณะจัดให้นักศึกษาทุกคนไปสวนโมกข์ ได้ซื้อหนังสือคู่มือมนุษย์ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย(วัยนั้น อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะ????) ธรรมะที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันคือ "ตกนรกไปพลางคว้านิพพานไปพลาง" ค่ะ

Narisa
ขอขอบคุณท่านพุทธทาสที่ ริ่เริ่มและเผยแพร่พระพุทธศาสนาในทางควรจะเป็น เพื่อยกระดับจิตใจมนุษย์ในสูงขึ้นท่ามกลางสิ่งเร่งเร้าในสังคมปัจจุบันที่ส่งให้คนละเลยการรักษาใจ

รัชพร
.... รู้จักท่านอาจารย์พุทธทาสเมื่อปี ๒๕๓๖ โดยผ่านหนังสือ "ตัวกู ของกู" ได้นำธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวัน การดำเนินชีวิตและการทำงานอยู่หลายเรื่องขึ้นอยู่สถานการณ์นั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น เรื่องผัสสะ (โดยส่วนตัวเห็นว่าสำคัญมาก) เพราะการควบคุมอายตนะไม่ให้มีผัสสะมากระทบนั้นจำเป็นมาก เมื่อผัสสะมากระทบแล้ว ก็ไม่นำมากระแทกใจก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น และด้วยสังคมปัจจุบันที่โลกเสมือนจริงเกิดขึ้นเยอะมากและรวดเร็ว หลักแรกที่นำมาใช้ตลอดคือ ใช้หลักกาลามสูตรมาใคร่ครวญ ไม่ตัดสินและไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาทันที นำหลักโยนิโสมนสิการมาประกอบด้วย เพราะสังคมปัจจุบันชอบตัดสินโดยที่ยังไม่รู้อะไรที่แน่นอนเลย ฯ และอีกหลายๆเรื่องค่ะ ขอบคุณค่ะ

กชพร
ได้มีโอกาสอ่านคู่มือมนุษย์ และเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ ฝึกอานาปานสติ ให้รู้ทันอารมณ์ หยุดยั้ง

Yan Yan Chan
ได้ยินและรู้จักชื่อท่าน ตั้งแต่จำความได้ แต่พึ่งจะเข้าใจเข้าถึงทำที่ท่านสั่งสอนอย่างลึกซึ้ง ก็ปี นี้ เมื่ออายุย่างเข้า 49ปี ธรรมมะ ตัวกูของกู ตถตา สาธุ

กัญณภัทร
รู้จัก็ไม่เท่าไหร่รู้ใจสิคิดให้ดีมีดวงธรรม ได้ยินชื่อท่านที่ชมรมฯ เคยพบท่านที่สวนโมกข์ไชยา ครั้งเดียวตอนที่ผมอายุประมาณ18 สำหรับผมเรียกว่าเข้าค่ายปฏิบัติธรรมตามรอยชื่อในบทสวดมนตร์แปลของชมรมพุทธศาสตร์ ม.ราชมงคลล้านนาเชียงใหม่ โดยการนำของ อ. ที่ปรึกษาชมรมฯ (พระอาจารย์สมใจ วัดป่าสุคคโต ในปัจจุบัน) ท่านพุทธทาสน่ารัก อยู่กับสุนัข แมว ไก่ ไม่ได้เหมือนพระดังตรงไหน ท่านสอนผมก็ทำเป็นเล่นแต่ลึกๆก็พอเข้าใจ ถ่ายรูปด้วยกันผมก็ทำเป็นเล่นกับแมวแต่ใจรู้สึกได้ถึงกัลยาณมิตร และนำคำว่าธรรมสมังคีธรรมะเทคนิคไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติเจริญสติแบบเคลื่อนไหว แนวหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ธรรมะเรื่องตาก็นำมาใช้ในแบรนด์Heyehom ซึ่งกระตุ้นให้มองภูมิปัญญาต่างเชิงลึกเปิดตาในให้ใจชิมลอง เห็นถูกต้องจึงสำคัญต่อปณิธานของท่านพุทธทาสที่ต้องการสร้างพื้นฐานของสันติภาพโลกจริง

Heyehom
ครี้งแรกที่ได้อ่านคู่มือมนุษย์ ตามท่านเรื่อยมาทางยูทูป และบทความ ข้อเขียนตามสื่อโซเชียล

ณััชชา แซ่เตียว
รู้จักท่านอาจารย์ครั้งแรกตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก เนื่องจากเป็นคนใต้ เกือบทุกครั้งที่มาจ.สุราษฎรธานี ที่บ้านต้องแวะมาสวนโมกข์ไชยา ตอนเด็กๆรู้แค่ท่านเป็นครูบาอาจารย์ทางภาคใต้ที่โด่งดัง มีคนเคารพบูชาแยะ โตมาถึงมีโอกาสได้รู้จักท่านอาจารย์ในแง่มุมต่างๆมากขึ้น ผ่านทาง หนังสือและสื่อธรรมต่างๆ คำสอนที่นำมาเตือนใจอยู่เสมอคือ ความสุขคือความทุกข์ที่พอดีสำหรับทน

สาวิกา
อ่านหนังสือ​ธรรมะ​สำหรับ​นักศึกษา​ของหลวงพ่อพุทธทาส​ครั้งแรกตอนสมัย​เรียนมหาวิทยาลัย​ ประมาณ​ปี 2542

กฤษณ​
ไม่แน่ใจว่ารู้จักท่านครั้งแรกเมื่อไร น่าจะรู้จักผ่านหนังสือฝนตกยังต้องฟ้าร้องยังถึง มารู้ที่หลังว่าคำจากหนังสือนั้นมีที่มาจากเพลงกล่อมเด็ก เอ่อน้องเอย มะพร้าวนาฬิเกร์ ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงได้แต่ผู้พ้นบุญเอย เมื่อครั้งไปสวนโมกข์ ได้เห็นสระนาฬิเกร์ เห็นคำกลอนและทุกสิ่งที่ท่านสร้างไว้ให้พวกเราทุกคน ท่านบอกไว้ว่าท่านยังอยู่ ขอน้อมจิตระลึกถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านค่ะ

ธันยา
ฟังธรรมของท่าน เข้าใจไม่เป็นเรื่องจักรๆวงๆ เน้นการดับทุกข์ ไม่ให้หลงและเมาบุญ รู้เป้าหมายว่าเกิดมาทำอะไร สื่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับ นำคำสอนไปใช้ ใช้ได้ผลถึงให้เชื่อ การทำหน้าที่คือการปฏิบัติธรรม การทำงานด้วยจิตว่าง การถอดถอนจากตัวกูและของกู เรียกว่าเข้าใจพุทธศาสนาและโชคดีที่เกิดมาและพบพระพุทธศาสนา กราบพระพุทธศานาได้สนิทใจ เข้าใจแก่นพระพุทธศาสนา พุทธเจ้าทรงมีปัญญาหาที่ติมิได้ ใครจะมาจ้างให้ไปนับคือศาสนานอื่นก็ไม่ไปแล้ว และจะไปว่าศาสนาอื่นก็ไม่ทำเพราะเดินรอยตามปฏิธาณ ๓ ข้อ ที่พระพุทธทาสทีปฏิบัติมาสมดัง ท่านเป็นทาสของพระพุทธเจ้า เป็นนายมีอิสระเหนือข้าพเจ้า ๑.ทำความเข้าใจศาสนาของตน ๒.ทำความเข้าใจระหว่างศาสนา ๓.ช่วยกันพาออกจากวัตถุนิยม

นายนพดล ธงชัย
คุณแม่เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้รู้จักท่านพุทธทาสและไปสวนโมกข์ ตั้งแต่จำความได้ค่ะ ยังเคยไปเจอท่านตอนยังไม่สิ้น จำได้ว่าเวลาไปสวนโมกข์ เป็นวัดป่าแบบเงียบๆ ธรรมชาติมาก และสิ่งที่นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน คือ ความสมถะ และการไม่ยึดติด

รัชฏา
ผมได้อ่านผลงานหนังสือของท่านพุทธทาสเมื่อปี พ.ศ. 2526 หลายเล่มรวมทั้งธรรม 9 ตาสุดท้ายคือ อตัมมยตา ฯ ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งของลมหายใจก็ยังมีหลักธรรมคำสอนของท่ทนพุทธทาสอยู่เสมอ ผมขอเจริญธรรมสำนึกดีด้วยจิตน้อมกราบคารวะธรรมเป็นอย่างยิ่ง สาธุ ๆๆ ครับผม

มนตรี บุญเสริม
การทํางานคือการปฏิบัติธรรม

กมลวัฒน์ ชนะสุวรรณ
รู้จักพุทธทาสครั้งแรกตอนอยู่ม.ปลาย ปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักธรรมที่นำมาใช้ตราบจนทุกวันนี้ ชัดเจนตรงจุดและรับมือกับปัญหาที่ประสบในชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม สำนึกในพระคุณและความกรุณาของท่านพุทธทาสเสมอ

หลินลี่
นำธรรมะเพียง 3 ตาไปใช้ในเกือบทุกวันทั้งตื่นและเวลานอนไม่คอยหลับ ฟังธรรมะของท่านพุทธทาสเกือบทุกวัน จาก CD ของกลุ่มอยู่เย็น ฟังมา 3-4ปี ได้แค่แผ่นที่ 4 ขอบคุณทางกลุ่มฯอย่างสูง .

ไพโรจน์
...รู้จักท่านตั้งแต่เริ่มหันมาปฏิบัติธรรมและเมื่อได้ฟังธรรมเทศนาของหลวงพ่อปัญญาฯ ได้ทราบว่าหลวงพ่อปัญญาฯเคารพนับถือท่านดั่งพี่ชายเป็นสหายทางธรรม ทำให้ยิ่งเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น พอได้ศึกษาตำรา อ่านหนังสือที่ท่านเขียนทำให้เข้าใจอย่างแท้จริงว่า ธรรมคือธรรมชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่ง แต่เราควรมองเห็นทุกๆสิ่งตามความเป็นจริง หมั่นทำความเพียรไม่พ่ายแพ้ต่อ กิเลส เครื่องมอมเมาทั้งหลาย และเข้าใจสังคม เข้าใจโลกว่าทุกสิ่งที่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มันเป็นเช่นนั้นเอง สาธุสาธุสาธุ ค่ะ

ชญาดา
   รู้จักท่านจากแก่นพุทธศาสน์                        ท่านกล้าหาญมากที่ยืนเทศน์                        ท่านมีความมั่นคงที่จะเป็นทาสพระพุทธเจ้า  โดยครั้งหนึ่งตอบเพื่อนคนหนึ่งว่า   นางฟ้าของ                             เ                       เรามีตั้ง๘๔,๐๐๐พวกเขาดูแลฉันอยู่                        หลักธรรมที่นำมาใช้คือ  ตถตา  อวิตถตา  อนัญถตา

Jarinya
รู้จักท่านเมื่อประมาณ​ 20กว่าปีที่แล้ว​ ตอนมาแวะเที่ยวที่วัดท่าน​ ไปเดินเที่ยวไปสดุดตากับภาพดวงตาที่สามและเกาะต้นมะพร้าวที่ท่านได้สร้างไว้​ ทีแรกก็ไม่นึกว่าเป็นเรื่องเดียวกัน​ อีก​20​ปีให้หลังถึง​ได้ทราบว่าใช่เรื่องเดียวกัน​ นี้ละคือธรรม​ะที่ได้จากท่านและได้นำมาใช้ในตอนนี้​ด้วย

ด.น้ำทิพย์​
เริ่มรู้จักเมื่อไรนึกไม่ออกเหมือนกันค่ะ.. แต่ที่มักจะเห็นข้อความสอนใจของท่านจากสื่อต่างๆ หรือปฏิทินคงเป็นประโยคที่ว่า "เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา..." ...ตอนนั้นไม่ค่อยซึมซับอะไร..เห็นคนเลวเราก็ต้องไม่ชอบสิ????...ต่อเมื่อได้ศึกษาธรรมะจากครูบาอาจารย์หลายๆ ท่านมากขึ้น ได้ภาวนา ได้ข้อคิดต่างๆ จนพอจะเข้าใจกิเลสตนเองและคนอื่นบ้าง ใจก็ค่อยๆ น้อมลง...ชีวิตเดี๋ยวนี้เวลาที่ทุกข์ใจ แก้ปัญหาไม่ได้ หรือเห็นชีวิตรอบข้างต่างๆ ในหลากหลายแง่มุมก็ดี จะนึกถึงคำว่า "ตถตา" ที่เคยมีโอกาสเห็นจากลานหินวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ช่วยให้ใจดิ้นรนน้อยลงผ่อนคลายกับโลกพอสมควร...กราบหลวงพ่อค่ะ????????????

อำนวยพร
I AM COMING ON 2ND MAY 2017, WITH MUM,GRANDMA AND AUNTY. I AM VERY HAPPY TO BE HERE. MY GRANDMA WAS VERY HAPPY TO READ THE BOOK HERE AND ME TOO.

kunoat
รู้จักท่านพุทธทาสครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2521อายุ 15 ปี พบท่านอาจารย์พุทธทาส จากหนังสือคู่มือมนุษย์จากตู้หนังสือของอาจารย์ชื่นจิต วิชัยดิษฐ เป็นญาติที่ไปอาศัยอยู่ด้วยเพื่อเรียนหนังสือตอนนั้นยังเป็นวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช จำได้ว่าจับหนังสือขึ้นมนุษย์มีคู่มือด้วย อ่านจนจบ และจากนั้นก็ติดตามอ่านหนังสือท่านอาจารย์มาตลอดและพร้อมๆกับสนใจพระศาสนาจากหนังสือท่านอาจารย์ ได้มีโอกาสพบท่านท่านที่สวนโมกข์ตอนปี พ.ศ 2532 และสวนโมกข์เป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่นเสมอเมื่อได้ไปเยือน สุขสงบเย็นเมื่อสัมผัสกับสวนโมกข์ ธรรมมะที่นำไปใช้คือเรื่อง "การทำหน้าที่ให้ถูกต้องทุกขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการของชีวิต การทำหน้าที่ที่ถูกต้องคือการปฏิบัติธรรม" เรื่องธาตุ ขันธ์ 5 สักแต่เป็นธาตุตามธรรมชาติ และอีกหลายข้อธรรม เหมือนได้เกิดใหม่ ท่านอาจารย์ฯให้ชีวิตใหม่....ที่ต้องมาพัฒนาต่อไปในทุกวัน

สุมาลี สุโขพล
17ปีที่แล้วคับ จากหนังสือแม่บ้านที่ทำงานที่หนึ่ง ผมได้เห้นคำว่า ตัวกูของกู อยุ่หน้าปกหนังสือพุทธทาส ตอนนั้นผมได้เห็นคำนั้น ทำผมสะดุ้งขึ้นมา และอยากรู้ว่า ท่านหมายถึงอะไร แต่หลังจากนั้นก้ไม่ได้สนใจอะไร จนผ่านมา10กว่าปีไห้หลัง ผมเริ่มรู้แล้ว ตัวกูของกู

สิทธิพร บุญเดช
ตอนเด็ก เคยได้ยินพ่อพูดคำว่า "ตัวกู ของกู" พอโตมาได้รู้จักท่านพุทธทาสจากหนังสือ ธรรมมะของท่าน สอนให้เห็นความจริง ในชีวิต "สงบเย็น เป็นประโยชน์"

เกศินี เกิดอุดม
จำไม่ได้แล้วว่ารู้จักท่านอาจารย์ตอนอายุเท่าไหร่ น่าจะวัยมัธยม ได้เห็นหนังสือ คำสอนของท่านผ่านตาอยู่มาก แต่ไม่ได้เคยคิดที่จะหยิบมาอ่าน จนโตขึ้นมา ได้ใช้ชีวิตและผ่านอะไรมามาก ทำให้รู้ว่าการที่มีหนังสือสักเล่ม หรือคำสอนสักหนึ่งประโยคไว้เตือนตัวเองก็คงจะดี จนวันนึงได้เปิดเว็บดูเอกสารไปเรื่อยๆ เจอข้อความที่ท่านเขียนว่า "not to be sad not to be glad but with equilibrium"

ณพ
เล่มแรกที่อ่านคือคู่มือมนุษย์และเป็นการเริ่มต้นที่สนใจธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจัง

มยุรี
นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยคำสอนที่ว่า ทุกอย่างว่างเปล่า ไม่มีตัวกู ของกู ค่ะ

ธนพร วังศรี
เจอครั้งแรกตอนเรียน ม.1 วิชาพุทธศาสนามั่งครับ ตอนนั่นรู้แค่ว่าท่านเก่งและมีบทบาทเยอะในวงการพุทธศาสนา ตอนโตได้เจอธรรมะของท่านบทนึง ว่าด้วยเรื่องของความทุกข์จำไม่ได้ละเอียดว่าท่านพูดว่าอะไร แต่มีใจความประมาณว่า "ถ้าไม่รู้จักความทุกข์ให้มากพอ แล้วจะหาทางดับทุกข์ได้อย่างไร" มันแบบเข้าใจเลยว่า เอ้อ โง่อยู่ตั้งนาน

พุฒิพงศ์
พ.ศ.2535 ผมไปหาซื้อเทปคลัสเซทของหลวงพ่อพุทธทาส​ แถวท่าพระ​ ข้างวัดหมาธาตุ​ ได้มาหลายม้วน​ กลับถึงบ้านที่สุพรรณบุรี​ ก็เปิดฟังม้วนแรก​ ชื่อว่าด้วยความว่าง​ เปิดเทปแล้วล้มตัวลงนอนเพราะไป​ กทม.กลับมาก็เหนื่อย​ นอนรอสัก​ 10​ นาที​ เทปลั่นแสดงว่าหมดหน้าม้วน​ ก็กลับตลับใส่ใหม่​ สัก​ 10​ นาที​ เทปก็ลั่นอีก​ โดยไม่มีเสียงบรรยายธรรม​ ผมจึงรู้ทันทีว่า​ นี้ไง​ธรรมของหลวงพ่อพุทธทาส​ ว่าด้วยความว่าง​ ทุกวันนี้ดำเนินชีวิตด้วยการปล่อยวาง​ ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย

นายไตรรักษ์​ ศรีเดช
รู้จักท่านจากหนังสือคู่มือมนุษย์ ซึ่งซื้อมาอ่านตอน ม.2 รอบแรกอ่านไม่รู้เรื่องเลยครับ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านเขียน แต่พอเวลาผ่านไป หยิบมาอ่านอีกครั้งตอนเรียนมหาวิทยาลัย เริ่มเข้าใจสิ่งที่ท่านเขียนบ้าง จากนั้นทุก ๆ ประมาณ 5 ปี ผมจะหยิบคู่มือมนุษย์มาอ่านซ้ำ และค่อยๆเข้าใจสิ่งที่ท่านสอนมากขึ้นๆ และยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปครับ

กะว่าก๋า
“วัตถุธรรม“ในที่นี้ข้าพเจ้าหมายรวมถึง “ภาพแห่งจินตนาการที่ทุกคนสร้างขึ้นมาด้วยอำนาจแห่งโมหะเพื่อเป็นต้นกำเนิดแห่งโลภะ“ ด้วย แต่กลอนวรรคที่ว่า “เรากินเกลือไม่จำต้องบูชาเกลือ“ ค่อนข้างแรง แต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าท่านมีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่นพระรัตนตรัย แต่เป็นเนื้อหาที่เชื่อมโยงไปถึงวรรคสุดท้ายซึ่งน่าจะเป็น them ของสิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อคือ “ขึ้นนิพพาน(ฝั่งโน้น)ไม่ได้เสียดายเรือ“ หาใช่ท่านสอนไม่ให้บูชาพระไม่ แต่ท่านสอนในคนละเรื่อง คนละหัวข้อ ชาวพุทธก็ยังคงเป็นชาวพุทธเช่นเดิม ย่อมมองเห็นว่า “อุเทสิกเจดีย์“ “ธรรมเจดีย์“ “สังฆเจดีย์“ “ธรรมเจดีย์“ “ศรีมหาโพธิ์เจดีย์“ นั้นสูงส่ง แต่ที่ท่านกล่าวน่าจะหมายถึง อย่าเคารพในรูปแบบของการยึดติดจนกลายเป็นกามราคะ รูปราคะ หรือ อรูปราคะ เพราะนั่นแทบจะเป็นคนละเรื่องกับแก่นพุทธศาสตร์และเพิ่มสักกายทิฐิมากขึ้นไปอีก โดยแค่เปลี่ยนมาสร้างตัวตนในทางธรรม เป็น “อปุญญาภิสังขาร“ ไปโดยไม่รู้ตัว แทนที่สัญญลักษณ์ของพระรัตนตรับจะเป็น อามิสแห่งเป็ญญากลับกลายเป็น อามิสแห่งโลภะไปเสีย

กังวาน
รู้จักท่านเมื่อ 28 ปีที่แล้ว จากหนังสือธรรมะกับนักศึกษาที่วางอยู่บนชั้นในร้านขายหนังสือแห่งหนึ่ง หยิบมาเปิดอ่านโดยมิได้ตั้งใจและซื้อกลับมาอ่านต่อที่บ้าน อ่านแล้วรู้สึกว่า มองโลกกลับด้านไปจากเดิม ได้เข้าใจแก่นพุทธศาสนาจริงๆ หลังจากนั้นได้อ่านหนังสือของท่านอีกหลายเล่ม ความทุกข์น้อยลงมาก เล่มที่ชอบที่สุด คือ ตัวกูของกู ธรรมะที่นำมาใช้เตือนตัวเองเสมอ คือ เช่นนั้นเอง

พชราวลัย อิสริยศานต์
ผมรู้จักท่านพระพุทธทาสเมื่อปี 2552 ครับตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มสนใจในด้านศาสนา และเป็นในหัวข้อเรื่อง. อิทัปปัจจยตา ปฏิจสมุปบาท ซึ้งทำให้ผมเห็นถึงความเชื่อมโยงตั้งแต่อวิชาไปจนถึงการทำงานของขันต์5 เห็นถึงเหตุที่ส่งถึงผล สืบเนื่องกันไปไม่จบไม่สิ้น จึงทำให้ทราบว่าเมื่อการสืบเนื่องเกินขึ้น สุดท้ายจะรวมลงที่เวทนา ถ้ารับรู้ที่เวทนา ก็สามารถใช้สติเป็นตัวรับรู้และตัดหรือเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นว่าเป็นธรรมดา และสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทุกๆขณะจิต

ศิวพันธุ์ เย็นฉ่ำ
น่าจะหลังจากแม่จากไปเมื่อปี 2541 เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเรื่องธรรมะ เพราะมีความสุขดี มีพ่อแม่พี่ๆหลานๆ ไม่มีปัญหาขีวิต คิดว่าความสุขแค่นี้พอใจแล้ว แต่พอพ่อเสียชีวิต เริ่มรู้สึกแปลกๆที่อยู่ดีๆคนๆนึงก็หายไป เริ่มคิดว่าเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่อจากกัน พอแม่หายไปอีกคน เริ่มเห็นว่าชีวิตนี้ไม่แน่นอน แม่ที่แข็งแรงมาตลอดก็มาจากไปด้วยโรคร้ายในวัยชรา เราจะทำอะไรต่อไปดี เริ่มงงกับชีวิต เริ่มศึกษาธรรมะด้วยการอ่าน การฝึกปฏิบัติตามสำนักอาจารย์ต่างๆที่ว่าดี จำไม่ได้ว่าอ่านหนังสือของ อ.พุทธทาสเมื่อไร แต่สะกิดใจตั้งแต่ชื่อของท่านที่มีความหมายตรงๆชัดเจน อ่านหนังสือท่าน(คิดว่า)เข้าใจบ้างแม้ไม่หมดแต่น่าสนใจแนวคิดและปฏิบัติของท่าน บางเรื่องก็ไม่เห็นด้วยแต่ก็ยังน่าสนใจ คือมีความต่างจากอาจารย์ท่านอื่นๆที่น่าศึกษา จนอยากจะไปดูสวนโมกข์ของจริงว่าเป็นอย่างไร เคยไปครั้งนึงแต่แค่แวะไปช่วงเวลาสั้นๆกับเพื่อน เห็นท่านไกลๆ ตอนนั้นยังไม่ได้อ่านหรือฟังธรรมะของท่าน ครั้งที่ตั้งใจไปเพราะต้องการแสวงหาบางสิ่ง พบว่าสวนโมกข์ไชยา คือ ใช่เลย เริ่มอ่านหนังสือท่านมากขึ้น นับถือท่านเป็นอาจารย์ทางธรรมที่มั่นคงต่อคำสอนของพระพุทธเจ้ามากที่สุด.. ธรรมะที่ได้นำมาใช้ในขีวิตประจำวัน คือ การทำงานคือการปฏิบัติธรรม เป็นต้น และอีกหลายๆอย่างที่แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน

ศิริลักษณ์ ธนทิตย์
เล่มแรกที่อ่านคือ คู่มือมนุษย์ ครับ ถึงจะไม่เข้ามากนัก แต่ด้วยความศรัทธาจึงพยายามครับ

วราห์
เมื่อครั้งบวชเป็นสามเณร ทางวัดเปิดเทปให้ฟัง "ชีวิตที่ประเสริฐที่สุดคือชีวิตที่ไม่ครอบครองอะไรมาเป็นของตนเลย" "ละความเห็นแก่ตัว"

สุธัมโม ภิกขุ
เมื่อสามสิบสี่ปีที่แล้ว มีโอกาสไปสวนโมกข์กับชมรมพุทธ์ช่วงปิดเทอม ครั้งเรียนอุดมศึกษาทั้งหมดสองครั้ง จึงได้รู้จักท่านอาจารย์พุทธทาส และความสงบของธรรมชาติที่สวนโมกข์ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ปฏิบัติธรรม ช่วงเวลา เจ็ดวัน และเก้าวัน ดูแลการอบรมโดยหลวงพี่ดุษฎี และท่านสันติกโร มีความประทับใจในการฟังธรรม ธรรมชาติที่สวนโมกข์ เป็นอิสระแบบโล่ง โปร่ง ทางความรู้สึก แม้ในช่วงแรกจะยากลำบากทางใจ และกายมากสำหรับเด็กสาววัยรุ่นเมืองหลวงคนหนึ่ง ในการปรับตัวเข้ากับความเป็นอยู่ที่ความเรียบง่ายอย่างมากที่นั่น ได้กราบ และฟังธรรม (สด) จากท่านอาจารย์พุทธทาส แลกเทปธรรมมาฟัง อ่านคู่มือมนุษย์ครั้งแรกไม่ค่อยเข้าใจ และอ่านไม่จบ หลังนั้นเมื่อโอกาสอำนวยจะไปใช้เวลาปฏิบัติที่สถานที่สนับสนุนการปฏิบัติต่างๆ ใน กทม ภายหลังหยิบคู่มือมนุษย์เล่มเดิมมาอ่านจนจบ และกลับมาศึกษาให้มากขึ้น ร่วมกิจกรรมการปฏิบัติ ที่สวนโมกข์นานาชาติ ธรรมมาตา สวนโมกข์ไชยา และกรุงเทพ / ธรรมที่นำมาใช้ คือ สติ การทำงานคือการปฏิบัติธรรม / กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ในคำสอน และดำริให้เกิด สถานปฏิบัติ ธรรมมาตา

ศิริยุคล มีชูเวท เฮิลเชอร์
รู้จักท่านอาจารย์ครั้งแรกจากสมัยเด็ก เคยได้รับโอกาสไปกราบท่านที่สวนโมกข์ไชยาพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพุทธศาสนามากนัก แต่มีรูปถ่ายกับท่านและ พ่อแม่นำไปอัดภาพใหญ่ติดไว้ข้างผนังบ้าน เมื่อเริ่มโตเป็นวัยรุ่นสนใจการอ่านหนังสือมากขึ้นและชอบอ่านหนังสืองานศพ จากนั้นจึงได้อ่านงานของท่านพุทธทาสซึ่งทำให้ทบทวน ใคร่ครวญอยู่เสมอ ซึ่งก็คือหนังสือเรื่อง หัวข้อธรรมในคำกลอน จากนั้นก็นำธรรมะที่ได้จากเล่มนั้นมาปรับใช้กับตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการลดอัตตาตัวตนซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ยังคงศึกษางานของท่าน ไปสวนโมกข์ที่ไชยาและอื่นๆ รวมถึงเป็นอาสาสมัครงานทางธรรมรวมถึงงานของท่านพุทธทาส กราบสาธุในธรรมของท่านพุทธทาสค่ะ

ธนวดี
ดูVDO วาระสุดท้ายท่านพระพุทธทาส ศรัทธามากค่ะ ความรู้สึกขอได้เข้าไปกราบท่านและเรียนรู้ธรรมที่ท่านสอนค่ะ ธรรมที่นำไปใช้ทุกขณะที่มีสติรู้ทัน ผัสสะ วันสิ่งที่ต้องเข้าใจ ธรรมะสี่เกลอ การปฎิบัติแบบอานาปานสติ จนถึงปัจจุบันค่ะ_/\_

ชุติมา ศรวงศ์มงคล
รู้จักพุทธทาสครั้งแรกช่วงปิดเทอมม..ศ 4 ขึ้นมศ.5 ไปสวนโมกข์กับชมรมพุทธธรรมของโรงเรียนเตรียมอุดม น่าจะประมาณ2518นำมาปฏิบัติกระท่อนกระแท่นแต่ทุกครั้งที่มีความทุกข์จะนำธรรมะของท่านมาปฏิบัติที่ใช้มากคืออานาปานสติและตถตา

วรรณีย์ ตระการวนิช
ปี 2535 เทปคาสเซ็ท "ตัวกูของกู" โดยท่านพุทธทาส ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว

นพเมศฐ์ สุวรรณนามัย
เมื่อได้ยิน,ได้ฟัง คำว่า " ตัวกู ของกู" ครับผม, ก็เริ่ม สอบถาม ที่มาของ คำดังกล่าว...หลังจากนั้น หนังสือปกแข็ง ทุกเล่ม จาก ดวงกมล ก็มาครบ เล่ม ตัวกู ของกู อ่านไป ๓ รอบ แล้ว ได้แต่ ทฤษฎี แต่ยังคุม อารมณ์ไม่ได้ครับ...

นาย ธงไชย เกียรติชัยพงศ์
รู้จักสมัยเรียนหนังสือที่ มช. ผมเรียนศิลปะ และรู้สึกประทับใจ และได้นำมาใช้ในการสร้างงานศิลปะจนจบ ศิลปะนิพนธ์ โดยการนำวิธีคิดการวิเคราะห์พุทธศาสนา มาใช้ คือการ เปรียบ ศิลปะไทย,วัด, วิหาร,ลายไทย ต่างๆที่อยู่ในวัด ว่าแท้จริงแล้ว เป็นการสร้างรูปทรงเพื่อสอนธรรมมะ ไม่ได้มีอยู่เพียงรูปแบบที่เห็น แต่มีเป้าหมายเพื่อสอนธรรมะ สู่สังคม ขอบคุณครับ

มนตรี
รู้จักครั้งแรกตอนอยู่ชมรมพุทธ ที่มหาวิทยาลัยค่ะ แต่ตอนนั้น ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก เวลาผ่านล่วงเลยมา สนใจอ่านหนังสือธรรมมะ มาตลอด จนน้องสาว มาที่สวนโมกข์กรุงเทพฯ จำไม่ได้ว่ากี่ปีมาแล้ว เอาเทปธรรมมะของท่านมาให้ เราเลยเปิดฟัง บ่อยๆ จนศรัทธา มากขึ้น ปัจจุบัน ฟังท่านเทศน์ เกือบทุกวัน ธรรมมะ ที่ท่านสอน และนำมาใช้ บ่อยๆ คือ ธรรมมะ คือการทำงาน ทำงานให้สนุก ใช้ชีวิตอย่างง่ายๆ การทำจิตให้สงบ ไม่ยินดียินร้าย และ ตายก่อนตาย ค่ะ

สุกัลยา
เมื่อ 25ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสอ่านหนังสือคู่มือมนุษย์ แล้วก็ได้เห็นลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ที่หน้าปกหนังสือ ตอนนั้นยังไม่รู้จักว่าท่านคือใคร แต่ก็เป็นเหตุให้ได้ศึกษาพระธรรมเพิ่ม ตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ เป็นเหมือนสปอตไลท์ในการนำทางชีวิต จนต้องพาตัวเองไปจนถึงสวนโมกข์..สุราษฎร์...ได้เห็นความเรียบง่าย สงบ ร่มรื่น เย็นสบาย.ทั้งกายและใจ... ขอบคุณนะคะ ที่มอบดวงตาเห็นธรรมมาให้

แม่หญิงปิ่น
รู้จักท่านพุทธทาสครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนไปแวะเยื่ยมชมโรงมหรสพที่สวนโมกข์ไชยา ซึ่งมีคติธรรมสอนใจที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาตนเองและตรวจสอบตนเอง ปัจจุบันได้น้อมนำคำสอนและคติธรรมของท่านพุทธทาสมาใช้ในชีวิตประจำวันคือ - มีชีวิตอยู่เพื่อ ความสงบ เย็น และเป็นประโยชน์ - "ละตัวกูของกู" ดังคำคารวะท่านพุทธทาส "พุทธทาสนามท่านปานขุนเขา ทว่าเบาสบายอย่างว่างน้ำหนัก และตัวตนของท่านนั้นใหญ่นัก ใหญ่ด้วยหลักให้สละละตัวตน"

ลักขณา
ผมเป็นคนสุราษฎร์ธานี รู้จักท่านเมื่อชั้นประถมวัย จำได้ในวันเด็กโรงเรียนมักจัดไปเที่ยวสวนโมกข์ พุมเรียง และกองบิน71 มันก็ซึมซาบโดยไม่รู้ตัวมั้ง ประกอบได้อ่านหนังสือของท่านบ้าง ฟังธรรมบ้าง ผมชอบธรรมะหรือคำหนึ่งที่ผมเห็นสอดคล้องอย่างยิ่งว่า ธรรมะคือธรรมชาติ และคำสอนท่านก็ปรากฏชัด ไม่มีเกี่ยวกับไสยศาสตร์ ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลกัน

แสงเดช
.ปี2535นำธรรมข้อทำงานด้วยจิตว่าง

วันดี
ได้มาศึกษาพระสูตรในพระไตรปิฎกอย่างจริงจังก็ได้มาจากท่านพุทธทาสที่ได้เปิดเผย อธิบายขยายความให้เข้าใจ เปิดทางสู่การปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระศาสดา ให้พึ่งตนพึ่งธรรมเท่านั้น

kengclub
รู้จักท่านจากหนังสือคู่มือมนุษย์ค่ะ ต่อมาก็ได้ศึกษาธรรมะจากหนังสือที่ท่านเขียนอีกมากมาย อาทิเช่น หนังสือธรรมะจากพระโอษฐ์ ตถตา อิทัปปัจยตา ปฏิจจสมุปบาท บวชที่บ้าน เหว่ยหลาง ธรรมะใกล้มือ ฯลฯ ธรรมะที่นำไปใช้ ได้แก่ -การปฏิบัติงานคือการปฏิบัติธรรม -ธรรมะคือธรรมชาติ คือกฏของธรรมชาติ คือหน้าที่ตามธรรมชาติ คือผลที่เกิดจากการทำหน้าที่ตามธรรมชาติ -ทำชีวิตให้สงบ เย็น และเป็นประโยชน์ ขอกราบนมัสการบูชาระลึกถึงท่านด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

นวลจันทร์ จารุปรีชาชาญ
ครั้งแรกที่รู้จักท่านเมื่อหลายปีก่อนได้อ่านหนังสือคู่มือมนุษย์ที่ท่านเชียน แล้วมีคนเอาไปยูทูป ก็เลยตามท่านมาเรื่อย ข้อเขียน บทความ ข้อคิดดีๆ มากมาย เป็นข้อคิดมี่ดีสังคมควรนำไปใช้

ณัชชา แซ่เตียว
รู้จักพุทธทาสครั้งแรกจากการได้ยินผู้ใหญ่พูดกัน จนมาได้เห็นปฏิทินประจำปีที่มีข้อความ เตือนใจ รู้สึกถึงความสุขที่เกิดจากภายในตัวเองทั้งๆที่ยังไม่ได้ปฏิบัติ จากนั้นเมื่อมีโอกาสจะศึกษาพระธรรมคำสอนมากขึ้น จนมาถึงวันนี้ เกือบ20ปีแล้ว ดิฉันได้เดินในแนวทางละอัตตา และพยามยามปล่อยวางให้ว่างเท่าที่จะทำได้ ความสุขที่เกิดจากว่างมีจริงๆค่ะ สาธุ ขอกราบระลึกถึงท่านพุทธทาสในวาระครบ 111 ปีนี้ด้วยความเคารพอย่างสูง

ศิริทิพย์
รู้จักหลวงพ่อพุทธทาสครั้งแรกประมาณ 40 ปีแล้ว

นิตยา
ตอนประถมครับ ในหนังสือภาษาไทยเล่มใหนจำไม่ได้น่าจะเป็นบทอาขยานที่ได้ท่องจำ ว่า “เป็นมนุษย์หรือเป็นคน” เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา ใจสะอาดใจสว่างใจสงบ ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา เปรมปรีดา คืนวัน สุขสันต์จริง ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก จงรีบยกใจตน รีบขวนขวาย ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอย ทำให้ได้หยุดคิดว่าจะเป็นมนุษย์หรือเป็นคนเป็นผี ทุกวันนี้ยังเตือนตนอยู่เสมอว่าเราเป็นมนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐต้องทำแต่สิ่งดีงามเข้าไว้น่ะครับ

วัด
เคยเห็นกลอนธรรมะผ่านลายมือเขียนของท่านอาจารย์พุทธทาสตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ มาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ และเคยลองฟังเทปธรรมะของท่านบ้างแต่ฟังไม่ค่อยเข้าใจ จนมาเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาชีวิตค่อนข้างพลิกผันและเพิ่งสังเกตพบว่าตนเองกิเลสหนาจนธรรมะหายไปจากใจ จึงหันกลับมาฟังคลิปคำสอนของท่านอาจารย์อย่างจริงจังผ่าน youtube (ซึ่งมีให้เลือกฟังมากมาย) ครั้งนี้รู้สึกประทับจับใจเข้าใจในสิ่งที่ท่านอาจารย์ถ่ายทอดมากขึ้นจนเกิดศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุก ๆ คำกล่าวของท่านอาจารย์ช่างลึกซึ้งและทรงคุณค่ายิ่งนัก ทุกวันนี้มีสติในการดำรงชีวิตมากขึ้น จิตว่างเบา ธรรมะไม่หายไปจากใจแล้วค่ะ ต้องกราบขอบพระคุณเรือและเหล่าสะพานธรรมทั้งหลายซาบซึ้งใจมากค่ะ ????????????????????????

เน เนตรา
ปี ๒๕๓๙ ได้มีโอกาสดูวิดีทัศน์บันทึกการบรรยายธรรมของอุบาสิกาคุณรัญจวน อินทรกำแหง หน้าโรงมหรสพทางวิญญาณ ทำให้รู้สึกว่า "โดน" จนต้องไปหาหนังสือ "คู่มือมนุษย์" มาอ่าน แล้วน้อมนำธรรมะมาพิจารณาเวลาเกิดเหตุกับตัว ยิ่งโดนมากขึ้นไปอีก นับเป็นการเปิดโลกทัศน์อย่างยิ่ง ที่ทำให้รู้จัก "พระพุทธศาสนา" ที่บอกให้รู้ว่าอะไรคืออะไร ให้เรามีสัมมาทิฏฐินับจากวันนั้น

ลัชชินี
...รู้จักท่านพุทธทาส ครั้งแรกเมื่อ10ปี ที่แล้ว ได้อ่านหนังสือและ ศัทธา และ เคารพ เชื่อฟังในคำสอนของท่าน ได้นำไปใช้ชีวิตประจำวัน สติ และ ความ สมถะ ไม่ยึดติด

ณัฐนันท์
รู้จักเมื่อได้รับสมุดธรรมะเล่มนึงซึ่งมีหลักคำสอนของท่านพุทธทาสแล้วสามารถมาปรับใช้ได้ในชีวิตนั้นคือ การบูชาธรรมะคือการบูชาหน้าที่ บูชาการงานที่จะต้องทำ ค่ะ ชอบมากเป็นคำสอนที่ใช้แล้วเห็นผล

อัจฉรา
รู้จักท่านจากการบรรยายธรรมทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย หลังจบข่าวตอน 7 โมงเช้า ประจำวันอาทิตย์ คำพูดที่ท่านพูดซ้ำไปซ้ำมาคือ “ศีลธรรมกลับมา โลกาสงบเย็น ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ” หลังจากนั้น จึงได้หาหนังสือของท่านมาอ่าน เล่มแรกคือ คู่มือมนุษย์

มรกต
สูตร เว่ยหลาง

โสภณ
ผมโชคดีที่ได้อ่านหนังสือและ รู้สึกท่านพุทธทาส สัก 20 ปีก่อนจาก หนังสือคู่มือมนุษย์, และ สนใจ ทดลอง ธรรมชิมลอง, อานาปานสติ และ ได้ไปที่สวนโมกข์ไชยา และบ้านที่ท่านเคยอยู่ เพื่อตามรอยประวัติท่านพุทธทาส เพื่อศึกษาและซึมซับ และ ได้รู้จัก สวนโมกข์กรุงเทพ และ ไปเยี่ยมเยือน เมื่อมีโอกาส. ธรรมหลักๆ ที่ได้นำมาใช้ คือ คู่มือมนุษย์ เรื่อง ตัวกูของกู และ บทกลอนธรรม ของท่านที่มีมากมาย, ที่ใช้เตือนสติอยู่บ่อยๆคือ, “เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาส่วนที่ดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย จะมองหาคนที่ดีในส่วนเดียว อย่าไปเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย เหมือนเสาะหาหนวดเต่าเหนื่อยเปล่าเอย ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณเอย” สุข สงบ เย็น เป็นประโยชน์และพ้นทุกข์ร่วมกันครับ????????

ธานินทร์ วีระรัศมี
ได้ข้อคิดธรรมะเมื่อ 10 ปีที่แล้ว พ้นจากทุกข์ครั้งใหญ่ ครอบครัวล่มสลาย คุณแม่เสีย ถูกโกงถูกทำร้าย หนักหนาสาหัส กว่าจะผ่านมาได้ ยากนัก ส่วนธรรมะข้อหลักๆนำมาใช้จริงจังราว 2 ปีนี้ หลังจากนั้น ดีใจเสียใจ ไม่อาจทำร้ายไม่อาจเหลิงหลง ปัญหาใหญ่น้อยล้วนทุเลา เข้าใจโลกสรรพสิ่ง เชื่อมโยงความสุขได้อย่างง่ายดาย สุขแท้จริงไม่ท่วมทับเช่นเดียวกับความทุกข์

นภัสวรรณ แตงสกุล
ครั้งแรกที่เริ่มเข้ามารู้จักท่านพุทธทาสคือการได้เห็น หนังสือแก่นพุทธศาสตร์ ที่มีระบุว่าเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลของ UNESCO เมื่อได้อ่านทำให้เห็นภาพรวมของศาสนาพุทธอย่างไม่เคยมีใครที่จะเสนอแบบนี้มาก่อน เกิดความเข้าใจที่ดีมาก ๆ และ นับถือท่านที่ตีความและถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ อ่านง่ายและเข้าใจง่าย ทั้งที่เป็นเรื่องของแก่นของความรู้พุทธศาสนา ตั้งแต่นั้นมา จึงได้ศึกษาพุทธศาสนาจากหนังสือเล่มอื่น ๆ ของท่านพุทธทาสมาตลอดเท่าที่จะหามาได้ จนได้อิ่มใจและเกิดปัญญามาก ๆ กับการได้อ่านหนังสือชุดจากพระโอษฐ์ เป็นหนังสือที่ทุกคนบนโลกควรได้อ่าน เป็นหนังสือที่สุดยอดมีคุณค่ามาก ๆ ครับ ท่านพุทธทาส มีค่ามากที่ได้สร้างมรดกธรรมชิ้นนี้ไว้ให้กับโลกครับ :)

สมจุ้ย
เมื่อได้อ่านหนังสือคู่มือมนุษย์ และติดตามท่านเรื่อยมาตามยูทูป และข้อเขียนของท่านที่ลงตามสือโซเชียลมากมาย

ณัชชา แซ่เตียว
ไม่เคยได้พบเจอท่าน แต่ติดตามจากสื่อ ม้วนเทปธรรมะ สะดุดตรง หัวข้อ เนื้อหา ที่กัดกินใจ.. อาทิ ชีวิตต้องเทียมด้วยควาย ๒ ตัว, "ฉันคือตัวฉัน กำลังทำลายตัวฉันอยู่ตลอดเวลา" ฯลฯ เกินจะพรรณา. #ธรรมะ ๙ตา คือเครื่องนำพานำมาใช้ในชีวิต ปัจจุบัน

ตุ๊บอย
ได้อ่านหนังสือของท่านพุทธทาสหลายเล่ม ตั้งแต่คู่มือมนุษย์ และก็ศึกษาเรื่อยมา ตอนแรกเหมือนว่าจะไม่เข้าใจซักเท่าไหร่ที่ท่านเขียน แต่พอเริ่มศึกษา และอ่านมากขึ้น จึงเข้าใจมากขึ้น จริงแล้วธรรมะไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย อยู่ในชีวิตประจำวันเรานี่เอง

วัลย์นิสา
รู้จักท่านนานแต่เพิ่งได้อ่านงานท่านจริงจัง เหมือนท่านเป็นพุทธทาสโดยแท้ผู้ชี้ทางแห่งสันติภาพ

สุทธเมธ ศุภผล